วอชิงตัน 25 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสหรัฐเตือนว่า ผู้เดินทางทางเครื่องบินในสหรัฐไม่ทราบจำนวนอาจสัมผัสเชื้อไวรัสโรคหัด เพราะมีท่าอากาศยานอย่างน้อย 5 แห่งปล่อยให้ผู้ป่วยเดินทางผ่านในเดือนนี้ ด้านเมืองออสติน รัฐเทกซัสพบผู้ป่วยโรคหัดรายแรกในรอบกว่า 20 ปี
สถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์รายงานว่า ท่าอากาศยานดังกล่าวอยู่ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย เมืองออสติน รัฐเทกซัส นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เอบีซีนิวส์แจกแจงว่า ที่เมืองชิคาโกผู้ป่วยโรคหัดคนเดียวกันผ่านอาคารผู้โดยสารหมายเลข 3 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม จากนั้นผ่านอาคารผู้โดยสารหมายเลข 1 ในอีกห้าวันถัดมา อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า ชิคาโกมีอัตราการฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมันมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ
ส่วนที่เมืองริชมอนด์ผู้ป่วยโรคหัดเดินทางผ่านท่าอากาศยานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม และในวันเดียวกันนั้นผู้ป่วยโรคหัดอีกคนเดินทางผ่านท่าอากาศยานเมืองออสติน ก่อนหน้านั้นเด็กสามคนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเดินทางกลับมาจากประเทศที่โรคหัดกำลังระบาด ผลการตรวจพบว่าทุกคนติดโรคหัด เด็กทั้งหมดเดินทางถึงท่าอากาศยานเมืองเดนเวอร์เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานลอสแอนเจลิสในวันเดียวกัน รายงานเตือนว่า ผู้เดินทางทางเครื่องบินที่เกรงว่าตัวเองจะติดเชื้อขอให้ตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนและพบแพทย์ประจำตัว
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมืองออสตินเผยว่า ผู้ป่วยโรคหัดที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม เป็นผู้ป่วยรายแรกในรอบกว่า 20 ปี สันนิษฐานว่าติดเชื้อขณะเดินทางอยู่ในยุโรปช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม นอกจากนี้เขายังไปร้านอาหารหลายแห่งระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคมด้วย ชาวเมืองที่เคยผ่านสถานที่เหล่านี้และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หากมีไข้ก่อนวันที่ 1 มกราคมขอให้พบแพทย์โดยทันที ส่วนชาวเมืองที่รับการฉีดวัคซีนครบทั้งสองครั้งไม่ต้องกังวลเพราะมีภูมิต้านทานแล้ว
ปีนี้โรคหัดระบาดในสหรัฐร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 20 ปี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหรือซีดีซี (CDC) แจ้งพบผู้ป่วยแล้ว 1,276 รายในรัฐส่วนใหญ่ของประเทศ มากกว่าจำนวนผู้ป่วย 4 ปีที่แล้วรวมกัน.- สำนักข่าวไทย