วอชิงตัน 14 ธ.ค.- นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางการค้ามองว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระยะหรือเฟสหนึ่งที่ทางการสหรัฐป่าวประกาศอย่างใหญ่โต เป็นชัยชนะของจีนมากกว่าสหรัฐ
นายสกอตต์ พอล ประธานพันธมิตรผู้ผลิตอเมริกันมองว่า การยอมไม่ขึ้นภาษีและลดภาษีเท่ากับสหรัฐเสียแต้มต่อที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการเจรจากับจีน นางแมรี เลิฟลี นักเศรษฐศาสตร์การค้าชี้ว่า เป็นชัยชนะเพียงบางส่วนของสหรัฐเท่านั้น ไม่ได้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างเห็นผล คณะเจรจาเพียงแค่บรรลุข้อตกลงที่ช่วยรั้งไม่ให้ตกเหว แต่สิ่งที่ได้ไม่คุ้มกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรและธุรกิจอเมริกัน ดูเหมือนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พยายามอย่างหนักที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับไปเหมือนช่วง 18 เดือนก่อนที่สงครามการค้ายังไม่เกิด ส่วนสกอตต์ เคนเนดี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนกล่าวว่า จีนยอมอ่อนข้ออย่างจำกัดเท่านั้น ทำให้สามารถเดินหน้าระบบเศรษฐกิจแบบพาณิชย์นิยมและนโยบายอุตสาหกรรมแบบเลือกปฏิบัติที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศคู่ค้าและเศรษฐกิจโลกได้ต่อไป
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐคาดว่า จะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งได้ในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม และได้เปิดเผยประเด็นสำคัญในข้อตกลง เช่น จีนจะเพิ่มความคุ้มครองเทคโนโลยีสหรัฐ จะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6 ล้านล้านบาท) เป็นเวลาสองปี ซึ่งจะทำให้ยอดขาดดุลการค้าที่สหรัฐขาดดุลให้แก่จีนลดลงถึงหนึ่งในสาม สหรัฐจะไม่ขึ้นภาษีร้อยละ 15 กับสินค้าจีนมูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.83 ล้านล้านบาท) ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ขณะที่จีนก็จะไม่ขึ้นภาษีตอบโต้ในวันดังกล่าวเช่นเดียวกัน สหรัฐจะลดภาษีที่เก็บกับสินค้าจีนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.62 ล้านล้านบาท) ไปเมื่อวันที่ 1 กันยายนลงครึ่งหนึ่งเหลือร้อยละ 7.5 ส่วนภาษีร้อยละ 25 ที่เก็บกับสินค้าจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.55 ล้านล้านบาท) จะยังคงเดิมเพื่อให้สหรัฐมีแต้มต่อในการเจรจาเฟสสอง.-สำนักข่าวไทย