กรุงเฮก 10 ธ.ค.- นางออง ซาน ซู จี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมาเตรียมแถลงแก้ต่างให้ประเทศด้วยตัวเองต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์เรื่องที่เมียนมาถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา
แกมเบีย ประเทศในแอฟริกาตะวันตกเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลโลกว่า เมียนมาละเมิดอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 2491 เพราะพยายามกำจัดชาวโรฮิงญาในช่วงที่กองทัพปฏิบัติการในรัฐยะไข่เมื่อปี 2560 คาดว่าจะมีทั้งกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มประท้วงรอต้อนรับนางซู จี ที่หน้าศาลโลก ชื่อเสียงเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพวัย 74 ปี มัวหมองจากการที่เธอนิ่งเฉยต่อชะตากรรมชาวโรฮิงญา อีกทั้งยังปกป้องนายทหารที่เคยกักบริเวณเธอในบ้านพักมานาน หนึ่งในประเทศที่จับตาการฟ้องร้องครั้งนี้คือบังกลาเทศ ที่ซึ่งชาวโรฮิงญาหนีข้ามพรมแดนเมียนมาเข้าไปอาศัยอยู่มากถึง 740,000 คน
การไต่สวนเป็นเวลาสามวันจะเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของศาลโลกที่ตั้งขึ้นในปี 2489 แกมเบียซึ่งฟ้องร้องในนามองค์การความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี (OIC) 57 ประเทศจะขึ้นให้การในวันนี้และจะขอให้ศาลโลกมีมาตรการฉุกเฉินยับยั้งพฤติกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเมียนมาที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ คำร้องของแกมเบียระบุว่า พฤติกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างปฏิบัติการของกองทัพเมียนมามีเจตนาทำลายชาวโรฮิงญาทั้งหมดหรือบางส่วนด้วยการสังหารหมู่ ข่มขืน และการใช้ความรุนแรงทางเพศในรูปแบบอื่น ๆ ส่วนนางซู จีจะขึ้นให้การในวันพุธ คาดว่าเธอจะแย้งว่าศาลโลกไม่มีอำนาจตุลาการในเรื่องนี้และปฏิบัติการของกองทัพเมียนมามุ่งเป้าหมายที่กลุ่มติดอาวุธ เอเอฟพีมองว่า นางซู จีอาจได้เปรียบจากข้อเท็จจริงที่ว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องที่พิสูจน์ทางกฎหมายได้ยาก ที่ผ่านมาศาลโลกเคยตัดสินว่ามีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพียงครั้งเดียวคือเหตุสังหารหมู่ที่เมืองซเรเบรนิซาในบอสเนียปี 2538.-สำนักข่าวไทย