เมลเบิร์น 7 ธ.ค.- ซามัว ประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้เผยว่า ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดให้แก่ผู้เข้าเกณฑ์ต้องรับวัคซีนได้แล้วเกือบร้อยละ 90 หลังจากปิดประเทศระดมฉีดวัคซีนเป็นเวลาสองวัน เพื่อยับยั้งโรคหัดระบาดที่คร่าชีวิตคนไปแล้ว 65 คน
ซามัวซึ่งมีประชากรเพียง 200,000 คน มีผู้ป่วยโรคหัดเกือบ 4,500 คนนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม และในจำนวนผู้เสียชีวิต 65 คนนั้น 57 คนเป็นเด็กอายุไม่ถึง 4 ขวบ รัฐบาลปิดประเทศในวันพุธและพฤหัสบดีเพื่อระดมฉีดวัคซีนประชาชนให้ได้ร้อยละ 90 ผลปรากฏว่าฉีดไปได้ร้อยละ 89 เกือบครบตามเป้าหมาย อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า ยังคงพบผู้ป่วยโรคหัดรายใหม่ 103 รายตั้งแต่วันศุกร์ ซามัวและสหประชาชาติขอให้ประชาคมโลกสนับสนุนเงิน 10.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 324.8 ล้านบาท) เพื่อต่อสู้และฟื้นฟูประเทศจากโรคหัดระบาด นายกรัฐมนตรีซามัวกล่าวว่า เหตุฉุกเฉินนี้จะส่งผลกระทบอย่างกว้างไกลมากต่อประเทศและประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นหลัง จึงต้องสร้างเสริมค่านิยมการรับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และวิกฤติครั้งนี้ได้ให้บทเรียนที่เจ็บปวดแก่ทุกคน
องค์การอนามัยโลกเผยว่า ปีที่แล้วทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคหัดเกือบ 10 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 140,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ภาพรวมปีนี้เลวร้ายยิ่งกว่าปีก่อน เพราะข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 3 เท่า พร้อมกับประณามทั่วโลกที่ไม่ช่วยกันยับยั้งโรคหัดระบาดทั้งที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน.-สำนักข่าวไทย