วอชิงตัน 3 ธ.ค.- รัฐบาลสหรัฐอาจเก็บภาษีลงโทษสูงสุด 1 เท่ากับสินค้านำเข้าจากฝรั่งเศสมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 72,663 ล้านบาท) หลังจากได้ข้อสรุปว่า ภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศสอาจกระทบบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ
สำนักผู้แทนการค้าสหรัฐหรือยูเอสทีอาร์ (USTR) แถลงว่า การสอบสวนตามมาตรา 301 พบว่า ภาษีรายได้จากบริการดิจิทัลที่ฝรั่งเศสเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 3 กับบริษัทที่มีรายได้ในฝรั่งเศสไม่ต่ำกว่า 25 ล้านยูโร (ไม่ต่ำกว่า 838 ล้านบาท) และรายได้ทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 750 ล้านยูโร (ไม่ต่ำกว่า 25,137 ล้านบาท) ไม่สอดคล้องกับหลักการโดยทั่วไปของนโยบายภาษีสากล และเพิ่มภาระอย่างผิดปกติให้แก่บริษัทอเมริกันอย่างกูเกิล เฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน ยูเอสทีอาร์จะเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะไปจนถึงวันที่ 14 มกราคมเรื่องรายชื่อสินค้าฝรั่งเศสที่จะถูกเก็บภาษีลงโทษ เช่น แชมเปญ กระเป๋าถือ ชีส ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการสินค้าที่จะถูกสหรัฐเก็บภาษีร้อยละ 25 เพราะข้อพิพาทเรื่องอียูอุดหนุนแอร์บัส คู่แข่งโบอิงของสหรัฐ และจะเปิดรับฟังเรื่องทางเลือกในการเก็บค่าธรรมเนียมหรือจำกัดบริการฝรั่งเศส แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเริ่มเก็บภาษีร้อยละ 100 เมื่อใด
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลกำลังสำรวจว่าจะสามารถเปิดการสอบสวนลักษณะเดียวกันกับการเก็บภาษีดิจิทัลในออสเตรีย อิตาลีและตุรกีหรือไม่ ยูเอสทีอาร์กำลังตอบโต้การปกป้องทางการค้าของสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ที่เพิ่มขึ้นและมุ่งเล่นงานบริษัทอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ก่อนที่ยูเอสทีอาร์จะประกาศเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเคยเผยว่า จะโต้แย้งข้อสรุปของยูเอสทีอาร์ว่าภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศสไม่ได้เจาะจงแต่บริษัทอเมริกันเท่านั้น ขณะที่รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสและสหรัฐประนีประนอมกันในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่ฝรั่งเศสเมื่อเดือนสิงหาคมว่า ฝรั่งเศสจะชดเชยให้บริษัทอเมริกัน แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่เคยให้ความเห็นชอบความคิดนี้.-สำนักข่าวไทย