โซล 15 พ.ย.- นายมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกดดันเกาหลีใต้ให้เพิ่มเงินสมทบค่าใช้จ่ายสำหรับทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ และต่ออายุข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองกับญี่ปุ่นที่เกาหลีใต้จะปล่อยให้หมดอายุในสัปดาห์หน้า
นายเอสเปอร์แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายพลจอง คยองโด รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ในวันนี้ว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศร่ำรวยจึงควรเพิ่มเงินสมทบสำหรับทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ทั้งสองฝ่ายควรสรุปข้อตกลงกลาโหมที่เกาหลีใต้จะเพิ่มเงินสมทบให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้ ด้านนายพลจองกล่าวว่า เขาและนายเอสเปอร์เห็นพ้องกันว่าข้อตกลงรายปีนี้ควรเจรจาอย่างเป็นธรรมและเห็นด้วยทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ได้เผยว่าเห็นพ้องกันว่าสัดส่วนเท่าใดจึงจะเป็นธรรมหรือไม่ สมาชิกสภาเกาหลีใต้คนหนึ่งเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐเรียกร้องให้เกาหลีใต้จ่ายเงินมากถึงปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 151,076 ล้านบาท) มากกว่าที่เกาหลีใต้ตกลงจ่ายในปีนี้ถึง 5 เท่า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐยืนกรานให้เกาหลีใต้เพิ่มเงินสมทบเพื่อช่วยป้องกันการรุกรานจากเกาหลีเหนือ สถาบันเกาหลีเพื่อการรรวมชาติเผยผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวเกาหลีใต้ร้อยละ 96 คัดค้านการเพิ่มเงินสมทบ ด้านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือลงบทความวันนี้ว่า การเรียกร้องของสหรัฐเป็นความพยายามปล้นทรัพย์ประเทศอื่นและเสริมสร้างการครอบงำทางทหารในภูมิภาคนี้ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ประกาศว่า จะเจรจารอบใหม่กับสหรัฐในวันที่ 18-19 เดือนนี้ที่กรุงโซล
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐยังได้เตือนว่า การที่เกาหลีใต้ตัดสินใจไม่ต่ออายุข้อตกลงข้อมูลทางทหารเพื่อความมั่นคงทั่วไปญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ (GSOMIA) ที่จะหมดอายุในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะกระทบต่อความพร้อมทางทหาร ประเทศที่จะได้ประโยชน์หากข้อตกลงหมดอายุและญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ยังคงมีความขัดแย้งคือจีนและเกาหลีเหนือเท่านั้น ด้านรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้กล่าวเพียงว่า เกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะพยายามลดความเห็นต่างก่อนข้อตกลงจะหมดอายุ อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ชี้ว่า ความขัดแย้งของทั้งสองประเทศยังไม่มีวี่แววจะดีขึ้น นับจากเสื่อมทรามลงเพราะศาลฎีกาเกาหลีใต้มีคำสั่งเมื่อปีก่อนให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยชาวเกาหลีใต้ที่เป็นทาสแรงงานสมัยสงคราม ตามด้วยการที่ญี่ปุ่นจำกัดการส่งออกวัสดุสำคัญทางอุตสาหกรรมให้แก่เกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนกกรฎาคม.- สำนักข่าวไทย