นิวยอร์ก 6 พ.ย.- สหรัฐแถลงเรื่องรถขับเคลื่อนเองของอูเบอร์ที่ชนคนตายในรัฐแอริโซนาเมื่อปีก่อนว่า ซอฟต์แวร์ของรถไม่ตีความผู้ข้ามถนนผิดระเบียบจราจรว่าเป็นคนเดินเท้า แต่ตีความว่าเป็นวัตถุ จึงเกิดเหตุสลดใจขึ้น
คณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐหรือเอ็นทีบีเอส (NTBS) ระบุในรายงานสอบสวนเบื้องต้นก่อนหน้านี้ว่า ซอฟต์แวร์ของรถตรวจพบสตรีวัย 49 ปี ราว 6 วินาทีก่อนชน ขณะที่เธอจูงจักรยานข้ามถนนตอนกลางคืนชานเมืองฟีนิกซ์ ล่าสุดเอ็นทีบีเอสเผยรายงานในวันนี้ก่อนที่จะมีการไต่สวนอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายนเรื่องสาเหตุของอุบัติเหตุว่า ซอฟต์แวร์ของรถไม่ตีความว่าเธอเป็นคนเดินเท้า แต่ตีความว่าเธอเป็นวัตถุเนื่องจากข้ามถนนในจุดที่ไม่ใช่ทางข้าม และเมื่อซอฟต์แวร์คำนวณว่าจะเกิดการชนขึ้นในอีก 1.2 วินาที จึงได้สั่งงานระบบห้ามล้อหรือพวงมาลัยให้ทำงานอย่างเต็มพิกัดเพื่อลดผลจากการชน และได้ส่งเสียงแจ้งเตือนไปยังผู้ควบคุมรถในขณะที่เตรียมชะลอความเร็วลง
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ทำให้อูเบอร์ระงับการทดสอบรถขับเคลื่อนเองในทุกแห่งของสหรัฐ ก่อนจะฟื้นโครงการขึ้นมาอีกครั้งในอีกหลายเดือนถัดมา อูเบอร์ให้การรับรองกับเอ็นทีบีเอสว่า ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ให้ตีความคนเดินเท้าอย่างถูกต้องมากขึ้น และให้สั่งงานระบบห้ามล้ออย่างน้อย 4 วินาทีก่อนชน รายงานหนา 37 หน้าของเอ็นทีบีเอสระบุด้วยว่า การทดสอบรถขับเคลื่อนเองของอูเบอร์ระหว่างเดือนกันยายน 2559 ถึงมีนาคม 2561 เกิดการชนทั้งหมด 37 ครั้ง ไม่รวมการชนสตรีที่รัฐแอริโซนาดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย