วอชิงตัน 25 ต.ค.- สหรัฐจะส่งกองกำลังไปปกป้องบ่อน้ำมันทางตะวันออกของซีเรีย ทั้งที่เพิ่งถอนทหารออกจากทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อต้นเดือน เป็นการเปลี่ยนนโยบายครั้งใหม่ที่ถูกอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐตำหนิว่า ไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์อย่างน่าตกใจ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงเพียงสั้น ๆ ว่า จะส่งกองกำลังเสริมไปประสานงานกับกองกำลังประชาธิปไตยซีเรียหรือเอสดีเอฟ (SDF) ที่นำโดยกองกำลังชาวเคิร์ด เพื่อคุ้มกันบ่อน้ำมันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของไอซิส ซึ่งเป็นชื่อที่สหรัฐใช้เรียกกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) หรือกลุ่มอื่น ๆ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ากองกำลังจะมีจำนวนเท่าใดหรือเป็นกองกำลังประเภทไหน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ก่อนหน้านั้นว่า สหรัฐจะไม่มีวันปล่อยให้ไอซิสได้ครอบครองบ่อน้ำมันเหล่านั้น
นายเบร็ตต์ แมคเกิร์ต อดีตทูตพิเศษประธานาธิบดีสหรัฐด้านพันธมิตรโลกต่อต้านไอซิสโพสต์วิจารณ์ว่า การที่ประธานาธิบดีสหรัฐขอให้ชาวเคิร์ดอพยพใหญ่ไปยังทะเลทรายเพื่ออาศัยอยู่บนบ่อน้ำมันเล็ก ๆ เป็นความไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ กฎหมาย คุณค่าอเมริกัน จริยธรรมความเป็นมนุษย์ และการให้เกียรติอย่างน่าตกใจ ประธานาธิบดีเพิ่งสั่งถอนทหารอเมริกันออกจากตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อต้นเดือน โดยอ้างว่าต้องการนำทหารอเมริกัน 1,000 นาย กลับบ้านและยุติการพัวพันในสงครามซีเรีย แต่กลับบอกว่าจะคงทหารจำนวนน้อยไว้ในซีเรียเพื่อปกป้องบ่อน้ำมัน
ด้านนายโจชัว แลนดิส ผู้เชี่ยวชาญตะวันออกกลางมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาของสหรัฐให้สัมภาษณ์อัลจาซีราว่า นโยบายต่างประเทศของสหรัฐเต็มไปด้วยความโกลาหล ประธานาธิบดีเปลี่ยนใจกลับไปกลับมา การส่งทหารไปเฝ้าบ่อน้ำมันเท่ากับส่งไปในพื้นที่ที่รัสเซียและซีเรียส่งกองกำลังไปประจำการตามที่รัสเซียตกลงกับตุรกี แล้วใครจะดูแลทหารอเมริกัน เพราะกองกำลังเคิร์ดก็ยอมถอยจากพรมแดนด้านตุรกีตามที่ตกลงกับรัฐบาลซีเรียแล้ว.-สำนักข่าวไทย