มอสโก 23 ต.ค.- ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่า สหรัฐได้หักหลังและทอดทิ้งชาวเคิร์ดในซีเรียแล้ว ขอแนะนำให้ชาวเคิร์ดถอนกำลังออกจากพรมแดนซีเรียตามที่รัสเซียได้ทำข้อตกลงกับตุรกี ไม่เช่นนั้นชาวเคิร์ดจะถูกกองทัพตุรกีถล่ม
สำนักข่าวรัสเซียหลายแห่งรายงานวันนี้ว่า นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ดูเหมือนสหรัฐต้องการให้ชาวเคิร์ดปักหลักใกล้พรมแดนซีเรียและสู้รบกับกองทัพตุรกี สหรัฐเป็นพันธมิตรใกล้ชิดชาวเคิร์ดมากที่สุดในช่วงหลายปีมานี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับทอดทิ้งชาวเคิร์ด หรือพูดให้ชัดคือหักหลัง ทิ้งชาวเคิร์ดไว้ที่พรมแดนด้านตุรกีและบีบให้ต้องสู้รบกับตุรกี หากชาวเคิร์ดไม่ถอนกำลังออกไปตามข้อตกลงที่รัสเซียตกลงกับตุรกี กองกำลังพิทักษ์พรมแดนซีเรียและสารวัตรทหารรัสเซียก็จำเป็นต้องถอนกำลังออกมา ทิ้งให้กองทัพตุรกีจัดการชาวเคิร์ดเอง
โฆษกรัสเซียกล่าวเรื่องนี้หลังจากนายเจมส์ เจฟฟรีย์ ตัวแทนพิเศษเรื่องซีเรียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวเมื่อวานนี้ว่า นักรบกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) สิบกว่าคนหลบหนีที่จากคุมขังตั้งแต่ตุรกีเริ่มบุกภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย และเขาไม่เชื่อว่ารัสเซียจะทำตามข้อตกลงเพราะมีเนื้อหากำกวมมากเรื่องจะให้วายพีจี (YPG) ซึ่งเป็นกองกำลังชาวเคิร์ดออกจากพื้นที่ของตัวเอง
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานของตุรกีบรรลุข้อตกลงเมื่อวานนี้ที่เมืองโซชิของรัสเซียหลังจากใช้เวลาพูดคุยกันนาน 6 ชั่วโมง เห็นชอบให้กองกำลังรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรียกลับไปประจำการที่พรมแดนด้านตุรกีพร้อมกับกองกำลังรัสเซีย แทนที่กองกำลังสหรัฐที่ถอนตัวออกไปแล้วหลังจากลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าวพร้อมกับกองกำลังชาวเคิร์ดมาหลายปี กองกำลังซีเรียและรัสเซียจะเริ่มผลักดันให้วายพีจีออกห่างจากพรมแดนด้านตุรกีไป 30 กิโลเมตรตั้งแต่วันนี้ จากนั้นอีก 6 วันจะร่วมกันลาดตระเวนในพื้นที่กว้าง 10 กิโลเมตร เป็นฉนวนที่ตุรกีเรียกร้องมานานเพื่อให้เป็นเขตปลอดภัยระหว่างพรมแดนตุรกีกับตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย.-สำนักข่าวไทย