ชี้ปัจจัยที่ทำให้เซินเจิ้นขึ้นมาแทนที่ฮ่องกงไม่ได้

ฮ่องกง 10 ต.ค.- ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การที่เงินหยวนของจีนยังคงไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างเสรีเหมือนดอลลาร์ฮ่องกงทำให้เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นไม่สามารถแทนที่ฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางการเงินนอกประเทศของจีนได้ 


รัฐบาลจีนเผยรายละเอียดแผนปฏิรูปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมเรื่องทำให้เซินเจิ้นเป็นเมืองทันสมัยของจีนและของโลก จากนั้นธนาคารกลางจีนประกาศในวันที่ 30 สิงหาคมว่าจะทดลองระเบียบใหม่ในเซินเจิ้นให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารสามารถแลกเปลี่ยนเงินสกุลหลักต่างประเทศเป็นเงินหยวนได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจีนอาจต้องการลดบทบาทของฮ่องกงใน Greater Bay Area ศูนย์กลางธุรกิจและเศรษฐกิจที่ประกอบด้วยฮ่องกง มาเก๊า เซินเจิ้น และอีก 8 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง 

นายโจเซฟ หยัม ผู้บริหารสำนักงานการเงินฮ่องกงคนแรกที่อยู่ในตำแหน่งนานถึง 16 ปี และปัจจุบันเป็นสมาชิกที่ไม่ใช่ข้าราชการของคณะบริหารฮ่องกงมองว่า การประท้วงในฮ่องกงขณะนี้ไม่น่าจะมีอิทธิพลต่อแผนของจีนที่จะทำให้เงินหยวนแลกเปลี่ยนได้ ส่วนโครงการต่าง ๆ ของจีนไม่น่าจะมีผลต่อบทบาทของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางการเงินนอกประเทศของจีน เขาคิดว่าคนเข้าใจผิดว่าจีนจะอนุญาตให้เงินหยวนสามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างเสรี สิ่งที่เป็นไปได้คือจีนจะให้แลกเปลี่ยนได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งยังคงต้องขออนุญาตจากทางการว่าจะแลกเปลี่ยนสกุลเงินใดได้บ้าง ต่างจากการแลกเปลี่ยนอย่างเสรีที่ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต มาตรา 112 ในกฎหมายพื้นฐานที่ปกครองฮ่องกงบัญญัติไว้ว่า ไม่สามารถใช้นโยบายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราในฮ่องกงได้ และดอลลาร์ฮ่องกงต้องสามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างเสรี


ด้านนายเจคอบ ดาห์ล ของแมคคินซีย์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการของสหรัฐชี้ว่า นักลงทุนสากลคงไม่ย้ายจากฮ่องกงไปเซินเจิ้นในเร็ว ๆ นี้ เพราะการตั้งศูนย์กลางการเงินสากลต้องใช้เวลาหลายทศวรรษในการสั่งสมประสบการณ์และสร้างความเชื่อมั่น เซินเจิ้นเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีก้าวหน้า แต่ยังไม่ใช่ศูนย์กลางการเงินเหมือนฮ่องกงที่เป็นเหมือนประตูเข้าออกจีน 

จีนตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นเมื่อ 40 ปีก่อนตามนโยบายเปิดประเทศ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของเซินเจิ้นแซงหน้าฮ่องกงเป็นครั้งแรกเมื่อปีก่อน เพราะขยายตัวร้อยละ 7.6 เป็น 2.87 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 11.08 ล้านล้านบาท) ขณะที่ฮ่องกงขยายตัวร้อยละ 3 เป็น 2.85 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 11 ล้านล้านบาท).- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม