ปักกิ่ง 28 ก.ย.- กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงวันนี้ว่า จีนต้องการเข้าร่วมสนธิสัญญาการค้าอาวุธโลกโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกประชาคมโลก
ทั้งนี้หลังจากที่นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวต่อสหประชาชาติเมื่อวานนี้ว่า จีนได้เริ่มกระบวนการทางกฎหมายในประเทศแล้วเพื่อเข้าร่วมสนธิสัญญาการค้าอาวุธหรือเอทีที (ATT) กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงย้ำในวันนี้ว่า จีนต้องการเข้าร่วมเอทีทีโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จีนจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำกับดูแลการค้าอาวุธโลกและแสดงให้เห็นว่าจีนมุ่งมั่นสนับสนุนระบอบพหุภาคี จีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งอยู่เสมอต่อเรื่องการค้าและการใช้อาวุธผิดกฎหมาย จีนในฐานะที่เป็นสมาชิกประชาคมโลกพร้อมเดินหน้าเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับทุกฝ่าย ร่วมกันสร้างระเบียบการค้าอาวุธที่มีมาตรฐานและสมเหตุสมผล อุทิศตนให้แก่การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพทั้งสากลและภูมิภาค
รอยเตอร์มองว่า จีนซึ่งมีข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐมักหาทางตำหนิสหรัฐที่วุฒิสภายังไม่ให้สัตยาบันเอทีทีทั้งที่ลงนามไปแล้วตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา แต่ถูกสมาคมปืนยาวแห่งชาติและกลุ่มอนุรักษ์นิยมคัดค้าน สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเห็นชอบเอทีทีในปี 2556 เพื่อกำกับดูแลการค้าอาวุธทั่วโลกที่มีมูลค่าสูงถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.11 ล้านล้านบาท) และป้องกันไม่ให้อาวุธตกไปอยู่ในมือผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน ปัจจุบันมีประเทศที่ลงนามและให้สัตยาบันแล้ว 104 ประเทศ ประเทศที่ลงนามแต่ยังไม่ให้สัตยาบัน 33 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือไทย และประเทศที่ไม่ลงนาม 57 ประเทศ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขู่จะยกเลิกการลงนามของโอบามา
สถาบันวิจัยสันติภาพสากลสตอกโฮล์มเผยว่า จีนเป็นผู้ส่งออกอาวุธใหญ่อันดับ 5 ของโลกระหว่างปี 2557-2561 โดยส่งออกไป 53 ประเทศ อันดับหนึ่งคือปากีสถาน อันดับสองคือบังกลาเทศ จีนถูกห้ามนำเข้าอาวุธของชาติตะวันตกตั้งแต่เหตุปราบปรามการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินปี 2532 จึงเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตอาวุธในประเทศจนมีความทันสมัย ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอาวุธบางอย่างของจีนเทียบเท่ารัสเซียและชาติตะวันตกแล้ว.-สำนักข่าวไทย