ครบ 5 ปี นักศึกษาเม็กซิโก 43 คนหายอย่างไร้ร่องรอย

เม็กซิโกซิตี 27 ก.ย.- รัฐบาลเม็กซิโกประกาศเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันครบ 5 ปีที่นักศึกษา 43 คนหายไปอย่างไร้ร่องรอยว่า จะรื้อคดีขึ้นมาสอบสวนในฐานะคดีอาชญากรรมที่ก่อโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และตั้งรางวัลแก่ผู้ให้เบาะแสใหม่ ๆ 


ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ที่เข้ารับตำแหน่งเดือนธันวาคมปีก่อนแถลงข่าวโดยสวมเสื้อยืดพิมพ์ตัวเลข 43 และประโยค I am for the truth ว่า เขาได้ตั้งคณะกรรมการค้นหาความจริงที่จะมีอำนาจสอบสวนเต็มที่  เพราะปกติแล้วคดีที่ก่อโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐมักยากที่จะค้นหาความจริงได้ ผู้กระทำผิดจะไม่รอดจากการถูกลงโทษ รัฐบาลได้ตั้งเงินรางวัล 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.29 ล้านบาท) ให้แก่ผู้มีเบาะแสใหม่ ๆ และ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15.3 ล้านบาท) ให้แก่ผู้รู้ที่กบดานของนายอเลฮันโดร เตเนสกัลโก นายตำรวจท้องที่ที่เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก ด้านนายโอมาร์ โกเมซ อัยการพิเศษในคดีนี้ประกาศว่า จะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ทีมของเขาจะสอบถามอดีตอัยการสูงสุดที่เคยดูแลคดีนี้และอาจสอบถามอดีตประธานาธิบดีเอนรีเก เปนญา เนียโตหากมีความจำเป็น อดีตประธานาธิบดีเปนญา เนียโตเคยคัดค้านไม่ให้ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีอาชญากรรมที่ก่อโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ชาวเม็กซิโกหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาร่วมการชุมนุมที่นำโดยบิดามารดาของนักศึกษาที่หายไป ตะโกนคำว่ายุติธรรม ขณะเคลื่อนขบวนไปยังจัตุรัสโซกาโล ใจกลางกรุงเม็กซิโกซิตี ผู้ร่วมขบวนจำนวนหนึ่งที่สวมเสื้อมีหมวกคลุมศีรษะและรั้งท้ายขบวนทำลายกระจกหน้าต่างร้านค้าและพยายามวางเพลิงร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ผู้ชุมนุมคนอื่นช่วยกันดับไฟได้ทัน การสอบสวนคดีนี้มีเสียงครหาว่าเจ้าหน้าที่ไร้ความสามารถและทุจริต มีการทรมานเพื่อเค้นให้รับสารภาพ จนกระทั่งมีการปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัว 77 คน หนึ่งในนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก 


อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองเม็กซิโกคนหนึ่งไม่คิดว่า การสอบสวนใหม่จะได้ผลที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะมีข้อเท็จจริงสองอย่างที่กระจ่างแล้ว หนึ่งคือนักศึกษาสถาบันฝึกอบรมครูทั้ง 43 คน ถูกตำรวจลักพาตัว สองคือทั้งหมดถูกส่งตัวไปให้แก๊งอาชญากรรม แต่เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นคงเป็นปริศนาไปตลอดกาล นักศึกษาเหล่านี้บังคับรถบัส 5 คันขับจากรัฐเกร์เรโร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศมุ่งหน้าขึ้นไปกรุงเม็กซิโกซิตีเพื่อประท้วง แต่ถูกตำรวจท้องที่ยิงใส่เมื่อคืนวันที่ 26 กันยายน 2557 มีคนเสียชีวิต 6 คน จากนั้นจับกุมนักศึกษาที่เหลืออยู่ 43 คนส่งให้แก๊งอาชญากรรม อัยการสมัยรัฐบาลเปนญา เนียโตสรุปว่า แก๊งดังกล่าวเข้าใจผิดว่าเป็นสมาชิกแก๊งคู่อริจึงได้ฆ่าแล้วเผาที่กองขยะ ด้านคณะสอบสวนอิสระจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนระหว่างอเมริกาแย้งว่า ผลการวิเคราะห์ทางนิติเวชจากที่เกิดเหตุชี้ว่า ข้อสรุปนี้เป็นไปไม่ได้ และตั้งสมมติฐานว่ารถบัสที่กลุ่มนักศึกษาบังคับให้ขับพาไปกรุงเม็กซิโกอาจซุกซ่อนเฮโรอีนที่จะลอบส่งเข้าสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง