ซาอุดีอาระเบีย 24 ก.ย.- หลายชาติในยุโรปออกมาระบุเช่นเดียวกับสหรัฐว่า อิหร่านเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ขณะที่อิหร่านบอกว่า ถ้าอิหร่านทำจริง ก็คงจะรุนแรงกว่านั้น
ผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้ออกแถลงการณ์ย้ำการสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทำขึ้นเมื่อปี 2558 ซึ่งสหรัฐถอนตัวออกไปแล้ว แต่ก็บอกให้อิหร่านยุติการฝ่าฝืนข้อตกลงและระบุว่าอิหร่านเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
ด้านนายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า กลุ่มกบฏฮูธีในเยเมนที่อ้างเป็นผู้ลงมือมีเหตุผลมากมาย ที่จะตอบโต้การโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำ เขากล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้น มีความแม่นยำสูง มีผลกระทบน้อยและไม่ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ถ้าอิหร่านเป็นผู้ลงมือ โรงกลั่นน้ำมันดังกล่าวจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า การโจมตีดังกล่าว ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป แต่ฝรั่งเศส ยินดีที่จะไกล่เกลี่ย อย่างไรก็ตาม นายซารีฟ ปฏิเสธจะไม่มีการเจรจากับสหรัฐและบอกว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปิดประตูสำหรับการเจรจาด้วยมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ซึ่งมองว่า ธนาคารกลางอิหร่านเป็นสถาบันสำหรับผู้ก่อการร้ายระดับโลก.-สำนักข่าวไทย