นิวยอร์ก 4 ก.ย.- วอลมาร์ต ห้างค้าปลีกใหญ่ที่สุดในสหรัฐจะเลิกจำหน่ายกระสุนสำหรับปืนพกและปืนลูกซองสั้น พร้อมกับขอให้รัฐสภาออกมาตรการเรื่องความปลอดภัยในการใช้ปืน หลังเกิดเหตุกราดยิง 22 ศพในห้างวอลมาร์ตเมืองเอลปาโซ รัฐเทกซัสเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
วอลมาร์ตแถลงว่า นอกจากจะเลิกจำหน่ายกระสุนสำหรับปืนพกและปืนลูกซองสั้นแล้ว ยังจะเลิกจำหน่ายปืนพกสั้นทั้งหมดในรัฐอะแลสกา ซึ่งเป็นรัฐเดียวที่ยังจำหน่ายอยู่ และจะขอร้องลูกค้าไม่พกปืนอย่างเปิดเผยเข้ามาในร้านที่มีอยู่ทั้งหมด 4,700 สาขา นายดักลาส แมคมิลเลียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของวอลมาร์ตส่งบันทึกภายในถึงพนักงานเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าสภาพการณ์เช่นในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้เป็นผลจากเหตุกราดยิงเมื่อเช้าวันที่ 3 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเหตุสังหารหมู่ครั้งร้ายแรงที่สุดในประเทศตั้งแต่ต้นปี และร้ายแรงเป็นอันดับสามในรัฐเทกซัส รวมทั้งเหตุกราดยิงในอีกหลายแห่ง อย่างไรก็ดี วอลมาร์ตจะยังจำหน่ายปืนลูกซองยาวล่าสัตว์ ปืนลูกซอง และกระสุนสำหรับปืนเหล่านี้ต่อไป และจะยังอนุญาตให้ลูกค้าพกปืนแบบมิดชิดและมีใบอนุญาตเข้ามาในร้านได้ต่อไป
ปัจจุบันวอลมาร์ตจำหน่ายปืนทั้งหมด 3,900 สาขา และเพิ่งเปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้ว่า บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดปืนร้อยละ 2 ของประเทศ และครองส่วนแบ่งตลาดกระสุนปืนร้อยละ 20 ของประเทศ ซีอีโอวอลมาร์ตระบุว่า การเปลี่ยนนโยบายจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดกระสุนปืนลดลงเหลือร้อยละ 6-9 บริษัทจะให้เกียรติลูกค้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและจะใช้วิธีที่นุ่มนวลที่สุด ขณะเดียวกันเขาจะส่งหนังสือถึงผู้นำในทำเนียบขาวและรัฐสภาเรียกร้องให้ออกมาตรการเรื่องความปลอดภัยในการใช้ปืนโดยคำนึงตามสามัญสำนึก เพิ่มการตรวจสอบประวัติและป้องกันไม่ให้ผู้ที่เป็นภัยได้ครอบครองปืน.- สำนักข่าวไทย