ผู้นำฮ่องกงเปิดใจอยากลาออกถ้าเลือกได้

ฮ่องกง 3 ก.ย.- นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงเปิดใจกับกลุ่มนักธุรกิจว่า เธอได้ก่อหายนะอย่างไม่สามารถให้อภัยได้จากการทำให้ฮ่องกงตกอยู่ในวิกฤตการเมือง และอยากลาออกหากเลือกได้ 


รอยเตอร์เผยแพร่เนื้อหาจากเทปบันทึกเสียงการประชุมเป็นการภายในนาน 24 นาทีระหว่างนางหล่ำวัย 62 ปีกับกลุ่มนักธุรกิจเมื่อสัปดาห์ก่อน เธอยอมรับว่า มีข้อจำกัดมากในการแก้ไขวิกฤตขณะนี้เพราะเหตุไม่สงบในฮ่องกงได้กลายเป็นประเด็นความมั่นคงและอธิปไตยแห่งชาติสำหรับจีนไปแล้วขณะที่ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐทวีความรุนแรงขึ้น  หากเธอมีทางเลือกสิ่งแรกที่จะทำคือลาออกจากตำแหน่งและกล่าวขออภัยจากใจจริง เธอคิดว่ายังไม่ถึงจุดที่รัฐบาลจีนต้องตัดสินใจเพราะไม่ได้ขีดเส้นตายให้ต้องยุติวิกฤตก่อนถึงวันชาติจีน 1 ตุลาคมนี้ และเชื่อว่าจีนยังไม่ได้คิดเรื่องส่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเข้ามารักษาความเรียบร้อยในฮ่องกง อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์ในฮ่องกงได้ยกระดับขึ้นเป็นเรื่องระดับประเทศไปแล้ว ผู้บริหารฮ่องกงซึ่งมีหน้าที่ตามธรรมนูญที่จะต้องรับใช้ทั้งรัฐบาลจีนและประชาชนฮ่องกงจึงเหลือเครื่องไม้เครื่องมือทางการเมืองน้อยมาก ๆ 

รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า น้ำเสียงของนางหล่ำในการประชุมเป็นการภายในนี้แตกต่างจากน้ำเสียงในการแถลงข่าวต่อสาธารณะที่ดูหนักแน่นเข้มแข็ง เธอเผยความรู้สึกว่า ผู้บริหารที่ทำให้ฮ่องกงเกิดหายนะเช่นนี้ไม่สมควรได้รับการให้อภัย และบอกกับที่ประชุมว่า รัฐบาลจีนตระหนักดีว่าการส่งทหารเข้ามาจัดการกับผู้ประท้วงอาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงประเทศ เป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า จีนใช้เวลานานในการสั่งสมภาพลักษณ์สากลและการมีบทบาทบนเวทีโลก ไม่ใช่แค่การเป็นเศรษฐกิจใหญ่เท่านั้น แต่เป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ จีนพร้อมจะใช้เวลาเพื่อผ่านพ้นเหตุไม่สงบในฮ่องกง แม้สิ่งนั้นจะหมายถึงความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับฮ่องกงทั้งเรื่องนักท่องเที่ยวลดลงและเงินทุนไหลออก ผู้บริหารฮ่องกงย้ำเรื่องการใช้หลักนิติธรรม การฟื้นฟูเสถียรภาพให้แก่ฮ่องกง และการปรับปรุงวิธีการสื่อสารนโยบายของทางการให้ประชาชนเข้าใจ จากนั้นได้ยินเสียงปรบมือปิดท้ายเทปบันทึกเสียง.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย