จาการ์ตา 29 ส.ค.- ผู้ประท้วงในจังหวัดปาปัว จังหวัดใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางตะวันออกสุดของอินโดนีเซียเผาอาคารสำนักงานของบริษัทโทรคมนาคมของรัฐในวันนี้ ขณะที่การประท้วงยืดเยื้อมาเกือบสองสัปดาห์แล้ว
ผู้ประท้วงก่อความไม่สงบ โดยอ้างว่าถูกเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ และต้องการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากอินโดนีเซียหลังจากถูกผนวกในปี 2512 ผู้ประท้วงเผาอาคารสำนักงานของเทลคอมอินโดนีเซีย บริษัทเผยว่า ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ด้านผู้บริหารพีแอลเอ็น บริษัทไฟฟ้าของรัฐเผยว่า ได้งดจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่พื้นที่โดยรอบอาคารที่ถูกวางเพลิง เช่นเดียวกับบริษัทน้ำมันเปอร์ตามินาของรัฐที่ปิดสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งในเมืองจายาปุระ เมืองเอกของจังหวัดนี้
สำนักข่าวอันตาราของทางการอินโดนีเซียรายงานว่า ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาสลายผู้ประท้วงที่เผารถยนต์ ขว้างปาก้อนหินใส่ร้านค้าและสำนักงาน นอกจากนี้ผู้ประท้วงยังเผาที่ทำการของรัฐสภาท้องถิ่นด้วย โฆษกตำรวจแห่งชาติแถลงว่า สถานที่ราชการและทรัพย์สินหลายแห่งถูกผู้ก่อจลาจลทำลายเสียหาย ส่วนเมื่อวานนี้เกิดเหตุผู้ประท้วงและตำรวจยิงต่อสู้กัน ตำรวจเผยว่ามีทหาร 1 นาย พลเรือน 2 คนถูกยิงเสียชีวิต แต่กลุ่มแยกดินแดนแย้งว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 6 คน ตำรวจส่งหน่วยเคลื่อนที่ 300 นายไปรักษาความสงบเรียบร้อยในหลายเมืองหลังเกิดเหตุดังกล่าว
การเคลื่อนไหวแยกดินแดนในปาปัวคุกรุ่นมาหลายทศวรรษ เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงอินโดนีเซียถูกร้องเรียนเรื่องละเมิดสิทธิอยู่บ่อยครั้ง ชนวนเหตุประท้วงล่าสุดมาจากการใช้ถ้อยคำเหยียดผิวกับนักศึกษาปาปัวกลุ่มหนึ่งที่ถูกยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในหอพักและควบคุมตัวในเมืองสุราบายาบนเกาะชวาเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมข้อหาดูหมิ่นธงชาติอินโดนีเซีย รัฐบาลตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วปาปัวตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเพื่อยับยั้งการส่งต่อข้อความยั่วยุที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง แต่กลุ่มสิทธิและผู้สื่อข่าวตำหนิว่าเป็นการปิดหูปิดตา.-สำนักข่าวไทย