ฮ่องกง 17 ส.ค.- ผลสำรวจเมื่อไม่กี่เดือนก่อนพบว่า ชาวฮ่องกงคิดเรื่องย้ายไปอยู่ที่อื่นมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดการประท้วงใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาวที่อยากย้ายไปยังประเทศใกล้ ๆ ในเอเชีย จากเดิมที่ผู้ย้ายออกมักอยากไปประเทศตะวันตก
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า ยูกัพ บริษัทวิจัยตลาดโลกสอบถามชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนพบว่า เกือบครึ่งคิดเรื่องย้ายไปอยู่ที่อื่น และคนหนุ่มสาววัย 18-34 ปีที่คิดเรื่องนี้มีมากถึงสองในสาม ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาเรื่องการย้ายถิ่นฐานเผยว่า ช่วงหลายสัปดาห์มานี้มีลูกค้าสอบถามเพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่อยากย้ายไปอยู่ในเอเชียอย่างสิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซียและไทย ลูกค้ามีความตั้งใจจะย้ายออกอย่างเห็นได้ชัด เดิมแค่โทรศัพท์ขอข้อมูล แต่ตอนนี้แสดงความจำนงว่าต้องการย้ายทันที เหตุผลที่ต้องการย้ายมีมากมาย แต่ที่ชัดเจนมากคือ การประท้วงที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน
ข้อมูลของสำนักงานความมั่นคงฮ่องกงเผยว่า ปีที่แล้วมีชาวฮ่องกงย้ายไปอยู่ที่อื่นประมาณ 7,600 คน เพิ่มขึ้นจาก 6,500 คนในปี 2560 ขณะที่ตัวเลขระหว่างปี 2557-2559 เฉลี่ยที่ปีละ 6,900 ถึง 7,600 คน จุดหมายยอดนิยมในช่วงห้าปีที่ผ่านมาได้แก่ ออสเตรเลีย สหรัฐ และแคนาดา ผู้ที่สามารถย้ายไปได้มักต้องมีการลงทุนในประเทศจุดหมาย เป็นนักริเริ่มทางธุรกิจ เป็นแรงงานมีทักษะ หรือแต่งงานกับคนประเทศนั้น
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า คนหนุ่มสาวอยากย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะมีความคาดหวังกับสังคมมากกว่าคนสูงวัย แต่โลกแห่งความเป็นจริงไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของพวกเขาได้ ทำให้รู้สึกหงุดหงิดและผิดหวัง คนหนุ่มสาวรู้สึกว่ามีโอกาสในชีวิตและหน้าที่การงานน้อยว่าคนรุ่นก่อนทั้งที่เรียนสูงกว่า รายงานของทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมเผยว่า ภายในปี 2570 ฮ่องกงจะมีคนวัยทำงานเรียนสูงกว่าปริญญาตรีเกินความต้องการของตลาดถึง 16,300 คน ขณะที่ผลการศึกษาของนิวเซ็นจูรีฟอรัมเตือนว่า ปริญญาจะมีค่าน้อยลงกว่าแต่ก่อน เด็กจบใหม่จะหาเงินได้ลดลงและต้องจำใจทำงานไร้ทักษะค่าแรงต่ำ.-สำนักข่าวไทย
