สหรัฐเรียกร้องสื่อจีนหยุดรายงานข่าวนักการทูตอเมริกันในฮ่องกง

วอชิงตัน 10 ส.ค.- สหรัฐเรียกร้องสื่อทางการจีนหยุดเผยแพร่ข่าวอันตราย หลังจากหนังสือพิมพ์จีนฉบับหนึ่งเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของนักการทูตอเมริกันในฮ่องกงที่พบกับกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย


โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐทวีตเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า รายงานข่าวของสื่อทางการจีนเกี่ยวกับนักการทูตอเมริกันในฮ่องกงเลยเถิดจากเรื่องไร้ความรับผิดชอบกลายเป็นเรื่องอันตรายไปแล้ว ขอให้หยุดโดยทันที ทางการจีนรู้ดีอยู่แล้วว่า บุคลากรทางกงสุลที่ได้รับแต่งตั้งของสหรัฐทำตามหน้าที่เท่านั้น เหมือนกับนักการทูตประเทศอื่น ๆ นักการทูตต่างชาติในสหรัฐ รวมถึงนักการทูตจีนก็สามารถเข้าถึงทุกคนแวดวงในการเมือง ภาคประชาสังคม วิชาการ และธุรกิจอเมริกันเช่นเดียวกัน 

โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐทวีตเรื่องนี้หลังจากหนังสือพิมพ์ต้ากุงเป่าในฮ่องกงที่สนับสนุนจีนลงข่าวเรื่องนางจูลี อีเดห์ หัวหน้าฝ่ายการเมือง สถานกงสุลใหญ่สหรัฐประจำฮ่องกงพบกับสมาชิกพรรคเดโมซิสโตที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 รวมถึงแกนนำพรรคอย่างนายโจชัว หว่อง นอกจากนี้ยังเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวเรื่องอาชีพและชื่อสมาชิกในครอบครัวของเธอด้วย 


กระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีเรียกร้องสถานกงสุลใหญ่สหรัฐประจำฮ่องกงตัดขาดจากผู้ก่อจลาจลต่อต้านโดยทันที และหยุดแทรกแซงกิจการภายในของจีนโดยทันทีด้วย โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงตอบโต้ในเวลานั้นว่า ท่าทีของจีนไม่ใช่การยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการกระทำของระบอบอันธพาล ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศที่มีความรับผิดชอบพึงกระทำ เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐคนหนึ่งเผยกับเอเอฟพีว่า ตัวแทนรัฐบาลสหรัฐพบปะกับคนหลากหลายกลุ่มทั่วฮ่องกงและมาเก๊าเป็นประจำอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย