เซี่ยงไฮ้ 31 ก.ค.- คณะเจรจาการค้าจีนและสหรัฐที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนแยกย้ายกันเดินทางกลับแล้ว หลังจากที่เพิ่งพบจับมือกันในช่วงเช้า เป็นการปิดฉากเจรจาเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ และไม่มีการแถลงข่าว
คณะเจรจาของสหรัฐที่นำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังเดินทางถึงนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้ รับประทานมื้อค่ำและหารืออย่างไม่เป็นทางการกับคณะเจ้าหน้าที่จีน เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกนับจากการพบหน้าครั้งหลังสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม จากนั้นได้เปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการในเช้าวันนี้ มีการจับมือทักทายและหารือเป็นการภายในประมาณ 4 ชั่วโมง ก่อนออกมาถ่ายภาพหมู่แล้วก็แยกย้าย คณะเจรจาสหรัฐเดินทางไปที่ท่าอากาศยานทันทีโดยไม่มีการแถลงข่าว
นายสตีเฟน อินเนส หุ้นส่วนด้านการจัดการของแวนการ์ดมาร์เก็ตส์สิงคโปร์ บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าสินทรัพย์ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐระเบิดโทสะอีกครั้งด้วยการทวีตในช่วงที่คณะเจรจาสหรัฐเดินทางถึงเซี่ยงไฮ้ได้ทำลายสิ่งที่ตลาดคาดหวังในแง่ดีต่อการเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้น ขณะที่ ศ.เฉิน ติงลี่ มหาวิทยาลัยฝูต้านในนครเซี่ยงไฮ้มองว่า ทวีตของทรัมป์แสดงให้เห็นว่าเขากระหายที่จะได้ข้อตกลง เป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเอง ด้านหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงบทความแสดงความเห็นในวันนี้โดยไม่ระบุชื่อทรัมป์ว่า ขณะที่การเจรจาเริ่มจะบรรเลง ชาวอเมริกันบางคนก็กระหน่ำตีกลองรบกวนจนทำนองหลักรวนไปหมด
ผู้นำสหรัฐทวีตเมื่อวานนี้ตามเวลาจีนว่า คณะของเขากำลังเจรจากับจีนอยู่ แต่จีนมักเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในท้ายที่สุดเพื่อประโยชน์ของตนเอง จีนควรจะต้องเริ่มซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐได้แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีท่าทีว่าจะทำเช่นนั้น ปัญหาเกิดจากจีนที่ไม่ยอมทำตามที่รับปาก ส่วนเมื่อสัปดาห์ก่อนเขาขู่ว่า จะผลักดันให้องค์การการค้าโลกยกเลิกการรับรองจีนในฐานะประเทศกำลังพัฒนา และเชื่อว่าจีนหวังจะเตะถ่วงเรื่องข้อตกลงจนกว่าสหรัฐจะเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า เพราะจะรอให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยจึงจะยอมลงนามข้อตกลง.- สำนักข่าวไทย