ศาลฎีกากลับคำพิพากษาเปิดทางทรัมป์ผันงบกลาโหมไปสร้างกำแพง

วอชิงตัน 27 ก.ค.- ศาลฎีกาสหรัฐกลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวานนี้ด้วยการอนุญาตให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นำงบประมาณกลาโหมไปใช้ในโครงการสร้างกำแพงด้านเม็กซิโกได้ ด้านทรัมป์ทวีตเป็นชัยชนะครั้งใหญ่


ผู้พิพากษาศาลฎีกาลงมติด้วยเสียง 5 ต่อ 4 กลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาคเก้าว่า รัฐบาลได้แสดงหลักฐานมีน้ำหนักมากพอจนถึงขณะนี้ว่ากลุ่มที่ร้องคัดค้านไม่อยู่ในฐานะที่จะคัดค้านการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวได้ เปิดทางให้รัฐบาลสามารถนำงบประมาณ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 77,030 ล้านบาท) ไปใช้ดำเนินโครงการสร้างกำแพงได้ในระหว่างที่กำลังมีการสู้คดีอยู่ 

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตว่า เป็นชัยชนะครั้งใหญ่เรื่องกำแพง เป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับความปลอดภัยพรมแดนและหลักนิติรัฐ ด้านสหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกันประกาศทันทีว่า จะเร่งให้ศาลอุทธรณ์ภาคเก้ามีคำตัดสินโดยเร็วเพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ชุมชนตามพรมแดน สภาพแวดล้อม และหลักการแบ่งแยกอำนาจตามรัฐธรรมนูญจะเสียหายอย่างถาวร หากประธานาธิบดีทรัมป์สามารถนำงบกลาโหมไปใช้สร้างกำแพงเกลียดชังต่างชาติทั้งที่รัฐสภาไม่เห็นด้วย


ศาลอุทธรณ์ภาคเก้ามีคำพิพากษาเมื่อเดือนพฤษภาคม สั่งห้ามชั่วคราวเรื่องการนำงบประมาณกระทรวงกลาโหมไปใช้ก่อสร้างกำแพง ตามที่ทางการประมาณ 20 รัฐพร้อมกลุ่มสิทธิ กลุ่มสิ่งแวดล้อมและชุมชนตามพรมแดนยื่นฟ้องว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ละเมิดรัฐธรรมนูญจากการประกาศเมื่อต้นปีว่า สถานการณ์บริเวณพรมแดนด้านเม็กซิโกเป็นเหตุฉุกเฉินระดับประเทศ หวังอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา เป็นความขัดแย้งที่ทำให้สหรัฐต้องปิดที่ทำการรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศถึง 35 วันเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปีก่อนถึงวันที่ 25 มกราคมปีนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”