กลุ่มสิทธิอินเดียห่วงเรื่องเทคโนโลยีจดจำใบหน้าละเมิดความเป็นส่วนตัว

นิวเดลี 25 ก.ค.- กลุ่มสิทธิมนุษยชนในอินเดียแสดงความกังวลเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการเฝ้าจับตาผู้คน หลังจากทางการนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาใช้ที่ท่าอากาศยานสองแห่งและมีแผนจะใช้ตามสถานีตำรวจด้วย 


ทนายความกลุ่มมาตรา 19 ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนในอินเดียเผยว่า หน่วยงานที่ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้ามีอำนาจเต็มในการจะทำอะไรก็ได้กับข้อมูลของประชาชน เพราะอินเดียไม่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลหรือกรอบเรื่องการเฝ้าระวังทางอิเล็กทรอนิกส์ เปิดช่องให้มีการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการทำตามอำเภอใจ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องเทคโนโลยีไม่แม่นยำและเชื่อถือไม่ได้เลย แม้ศาลฎีกามีคำชี้ขาดในปี 2560 เรื่องโครงการบัตรประจำตัวข้อมูลทางชีวภาพแห่งชาติว่า ความเป็นส่วนตัวของบุคคลคือสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ก็ไม่สามารถตรวจสอบการใช้งานเทคโนโลยีที่ขัดต่อสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญและหลักการความยุติธรรมทางอาญาได้ และถึงแม้นโยบายการเดินทางของรัฐบาลกำหนดไว้ว่า การนำข้อมูลทางชีวภาพของผู้โดยสารไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้โดยสารซึ่งมีสิทธิเลือกที่จะไม่อนุญาตได้ แต่คนส่วนใหญ่มักเลือกความสะดวกสบายหากไม่เห็นว่ามีความเสียหายที่จับต้องได้

อินเดียเปิดตัวเทคโนโลยีจดจำใบหน้าเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ท่าอากาศยานเบงกาลูรู ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเมืองบังกาลอร์ เมืองเอกของรัฐกรณาฏกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ สามารถระบุตัวตนผู้โดยสารโดยไม่ต้องตรวจสอบเอกสารกระดาษอย่างหนังสือเดินทางและบัตรที่นั่งบนเครื่องบิน ขณะที่ท่าอากาศยานไฮเดอราบัด เมืองเอกของรัฐอานธรประเทศ ทางใต้ของประเทศกำลังทดสอบเทคโนโลยีนี้อยู่ และเมื่อไม่นานมานี้กระทรวงมหาดไทยอินเดียได้เปิดประมูลผู้จัดทำระบบเทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงกรมตำรวจให้ทันสมัย รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลและกระบวนการระบุตัวตนทางอาญาด้วย 


ด้านโฆษกท่าอากาศยานเบงกาลูรูกล่าวว่า เทคโนโลยีจดจำใบหน้ามีความปลอดภัยในระดับสูงสุดและรับประกันเรื่องความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด เพราะจะใช้ข้อมูลทางชีวภาพเพื่อตรวจพิสูจน์และยืนยันตัวตนผู้โดยสารเท่านั้น หลังจากนั้นจะลบข้อมูลภายในไม่กี่ชั่วโมงที่เที่ยวบินถึงที่หมาย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่