เรคยาวิก 21 ก.ค.- ไอซ์แลนด์กลายเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในยุโรป เพราะหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งความเป็นประเทศเล็ก ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้า ค่าเงินผันผวนหนักเมื่อสองสามปีก่อน และการท่องเที่ยวซบเซาลง
ข้อมูลของยูโรแสตทระบุว่า ปีที่แล้วค่าครองชีพในไอซ์แลนด์สูงกว่ายุโรปทั้งหมดเฉลี่ยร้อยละ 56 รองลงมาคือสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และเดนมาร์กที่สูงกว่ายุโรปทั้งหมดเฉลี่ยร้อยละ 52, 48 และ 38 ตามลำดับ นักศึกษาอเมริกันคนหนึ่งเผยว่า ราคาข้าวของในไอซ์แลนด์ปรับขึ้นมากเทียบกับที่เคยมาก่อนหน้านี้ พิซซาชีสธรรมดาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งราคา 2,400 โครนา (ราว 590 บาท) ไวน์แก้วละ 1,400 โครนา (ราว 345 บาท)
นักเศรษฐศาสตร์หอการค้าไอซ์แลนด์ชี้ว่า ไอซ์แลนด์เป็นประเทศเล็ก มีประชากรเพียง 355,000 คน ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้าเป็นหลักจึงทำให้สินค้าราคาแพง นอกจากนี้ค่าเงินโครนาที่ผันผวนหนักช่วงปี 2559-2560 ยังทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นโดยรวม ด้านสมาคมผู้บริโภคไอซ์แลนด์มองว่า ค่าครองชีพที่สูงขึ้นนี้อาจเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับนักท่องเที่ยว แต่สำหรับชาวไอซ์แลนด์แล้วไม่เป็นปัญหาเพราะรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสำหรับคนทำงานประจำอยู่ที่ 632,000 โครนา (ราว 155,424 บาท) ก่อนหักภาษี จึงสามารถอยู่ได้
ด้านธนาคารกลางไอซ์แลนด์ประมาณการว่า เศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่ร้อยละ 0.9 เช่นเดียวกับสำนักงานสถิติไอซ์แลนด์ที่คาดว่า เศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวร้อยละ 0.2 จากที่คาดการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.7 สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะการท่องเที่ยวซบเซาลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อแตะร้อยละ 3.1 ในไตรมาสแรกของปีนี้.-สำนักข่าวไทย