กรุงเทพฯ 18 ก.ค.- สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เผยว่า แก๊งอาชญากรข้ามชาตินำเมตแอมเฟตามีนที่ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปซื้อขายในเอเชีย-แปซิฟิกคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 30,300-61,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 935,123 ล้านบาท-1.89 ล้านล้านบาท)
UNODC เผยแพร่รายงานวันนี้ว่า การค้าเมตแอมเฟตามีนเพิ่มขึ้นอย่างมากจากที่ประมาณการไว้ที่ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 462,834 ล้านบาท) ในปี 2556 เพราะแก๊งอาชญากรฉวยโอกาสจากการทุจริตรับสินบนที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย การบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ และความหย่อนยานในการควบคุมพรมแดน หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้การจ่ายสินบนตามพรมแดนเป็นการจ่ายค่าธรรมเนียมในระบบราชการ แก๊งอาชญากรซึ่งมีฐานอยู่ในฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และไทยผลิตเมตแอมเพตามีนทางตอนเหนือของเมียนมาในห้องแลปขนาดโรงงานแล้วส่งไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์
รายงานระบุว่า เอเชีย-แปซิฟิกกลายเป็นตลาดเมตแอมเฟตามีนใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว การค้ายาเสพติดชนิดนี้อันตรายที่สุดและทำกำไรมากที่สุด เป็นปัจจัยที่ทำให้แก๊งอาชญากรข้ามชาติแผ่อำนาจมากยิ่งขึ้น ตลาดที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์และเกาหลีใต้ มูลค่ารวมกันถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 617,168ล้านบาท) หรือราวหนึ่งในสามของการค้าเมตแอมเฟตามีนทั้งหมด ผู้เสพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออก ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน เสพรวมกัน 320 ตันเมื่อปีก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยึดได้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 120 ตัน
รายงานระบุต่อไปว่า บ่อนกาสิโนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดและขาดการควบคุมอย่างเคร่งครัดเป็นช่องทางให้แก๊งอาชญากรนำเงินที่ได้จากการค้าเมตแอมเฟตามีนมาฟอกแล้วโอนไปเข้าระบบธนาคารในสิงคโปร์และฮ่องกง เพราะหลังจากที่มีการกวาดล้างการฟอกเงินตามบ่อนกาสิโนในมาเก๊า เอเชียตะวันออกเฉียบใต้ก็มีบ่อนกาสิโนเพิ่มขึ้นเป็น 230 แห่ง นอกจากนี้แก๊งอาชญากรยังเป็นต้นตอที่ทำให้มีการค้าของปลอม ยาปลอม ค้ามนุษย์ สัตว์ป่าและไม้ซุงเพิ่มขึ้นด้วย.- สำนักข่าวไทย