มะนิลา 16 ก.ค.- โฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์เผยว่า ประธานาธิบดีกำลังพิจารณาอย่างจริงจังเรื่องตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไอซ์แลนด์ หลังจากไอซ์แลนด์ยื่นญัตติให้สหประชาชาติ หรือยูเอ็นเปิดการสอบสวนเรื่องสงครามกวาดล้างยาเสพติดของฟิลิปปินส์
นายซัลวาดอร์ ปาเนโล โฆษกประธานาธิบดีออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่า ประธานาธิบดีกำลังพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง การที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นรับรองญัตติของไอซ์แลนด์เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นการเข้าข้างอย่างน่าแปลกใจ คับแคบอย่างน่ารังเกียจและลำเอียงอย่างมุ่งร้าย มติของยูเอ็นแสดงให้เห็นว่ามหาอำนาจตะวันตกสบประมาทการใช้อำนาจอธิปไตยของฟิลิปปินส์ในการปกป้องประชาชน
ประธานาธิบดีดูเตอร์เตเพิ่งกล่าวเสียดสีไอซ์แลนด์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ไอซ์แลนด์มีแต่ปัญหาน้ำแข็ง เป็นประเทศที่มีน้ำแข็งมากเกินไป เป็นพวกคนเขลาที่ไม่มีวันเข้าใจปัญหา สังคม เศรษฐกิจและการเมืองของฟิลิปปินส์ ขณะที่นายทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวว่า แม้ฟิลิปปินส์และไอซ์แลนด์มีความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ต่างฝ่ายต่างไม่มีสถานทูตในอีกประเทศ ไอซ์แลนด์เข้ามาลงทุนพลังงานความร้อนใต้ภิภพในฟิลิปปินส์ ส่วนชาวฟิลิปปินส์ไปเปิดบริษัท ทำงานเป็นพยาบาลและคนงานโรงงานในไอซ์แลนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์เผยหลังคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นรับรองญัตติไอซ์แลนด์ว่า ฟิลิปปินส์อาจจะถอนตัวจากองค์กรนี้ แต่กล่าวในภายหลังว่าเปลี่ยนใจไม่ถอนตัวแล้ว
ประธานาธิบดีดูเตอร์เตเปิดสงครามกวาดล้างยาเสพติดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2559 ตำรวจฟิลิปปินส์แจ้งว่า สังหารผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดกว่า 5,300 คน แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนเชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้ 4 เท่า ปีที่แล้วอัยการอาญาศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี (ICC) ได้เปิดการสอบสวนเบื้องต้นเรื่องสงครามกวาดล้างยาเสพติดของฟิลิปปินส์ ทำให้ฟิลิปปินส์ถอนตัวจากไอซีซีอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคม ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วองค์การนิรโทษกรรมสากลออกรายงานกล่าวหาการสังหารในฟิลิปปินส์ว่า เป็นการกระทำอย่างเป็นระบบ และตำรวจแทบไม่ถูกสอบสวนเรื่องการสังหารคนยามวิกาล.-สำนักข่าวไทย