วอชิงตัน 16 ก.ค.- นายโมฮัมหมัด จาวัด ชาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเผยว่า อิหร่านไม่ต้องการทำสงครามกับสหรัฐ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านก่อนเพื่อเปิดทางให้เกิดการเจรจา
นายซาริฟให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ Nightly News with Lester Holt ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐระหว่างไปร่วมประชุมที่สหประชาชาติในนครนิวยอร์กว่า ประตูการทูตเปิดกว้างอยู่เสมอหากประธานาธิบดีทรัมป์ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันอิหร่านที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2560 และสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจอิหร่าน สหรัฐเป็นฝ่ายเดินออกจากการเจรจาด้วยการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ระหว่างอิหร่านกับหกชาติมหาอำนาจเมื่อปีก่อน แต่อิหร่านก็ยินดีต้อนรับสหรัฐกลับมาเจรจาใหม่อยู่เสมอ
ส่วนเรื่องที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า พร้อมเจรจากับอิหร่านโดยปราศจากเงื่อนไข แต่อิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์นั้น รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านไม่เคยคิดมีอาวุธนิวเคลียร์แม้สามารถทำได้หากต้องการ เพราะหากอิหร่านต้องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ก็คงทำไปนานแล้ว เอ็นบีซีรายงานเสริมว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐเคยสรุปว่าอิหร่านล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ไปตั้งแต่ปี 2546 แต่สามารถรื้อฟื้นขึ้นใหม่ได้ทุกเมื่อ นายซาริฟระบุด้วยว่า อิหร่านและสหรัฐไม่อยู่ในภาวะที่จะทำสงครามกันเพราะรัฐบาลทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งที่ต้องใช้อาวุธ เขาไม่คิดว่าประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการทำสงคราม แต่คนรอบข้างไม่แน่ ซึ่งในที่สุดแล้วก็จะไม่สำเร็จตามที่ต้องการเพราะความสุขุมรอบคอบจะต้องมาก่อน ทุกคนรู้ดีว่าอิหร่านเป็นประเทศใหญ่ที่มีความทะนงตน และจะไม่ถือว่าการโจมตีทางทหารเป็นเรื่องเล็ก.-สำนักข่าวไทย