ปักกิ่ง 12 ก.ค.- ยอดนำเข้าและส่งออกของจีนลดลงทั้งในเดือนมิถุนายนและไตรมาสสองของปีนี้ อันเป็นผลจากสงครามการค้ากับสหรัฐ และยิ่งเพิ่มกระแสกดดันให้รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็ว ๆ นี้เพื่อยับยั้งการชะลอตัวอย่างรุนแรง
ศุลกาการจีนแจ้งวันนี้ว่า ยอดส่งออกและนำเข้าเดือนมิถุนายนลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.3 และ 7.3 ตามลำดับ ขณะที่เดือนพฤษภาคมยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพราะผู้ส่งออกเร่งส่งไปตลาดสหรัฐก่อนถูกเก็บภาษีในเดือนมิถุนายน และยอดนำเข้าลดลงถึงร้อยละ 8.5 การที่ยอดนำเข้าลดลงติดต่อกันสะท้อนว่าความต้องการบริโภคในจีนยังไม่กระเตื้องแม้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่างตั้งแต่ปีก่อน
นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทจัดการเงินทุนในจีนชี้ว่า การนำเข้าและส่งออกของจีนโดยรวมลดลงไตรมาสต่อไตรมาส ขณะที่ความต้องการในตลาดโลกที่ซบเซาก็เป็นความท้าทายของเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทางการควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้แล้ว รอยเตอร์คาดว่า ทางการจีนจะประกาศในวันจันทร์หน้าว่า เศรษฐกิจไตรมาสสองของปีนี้ขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี รอยเตอร์เผยผลสำรวจเมื่อวันพุธว่า เศรษฐกิจจีนปีนี้น่าจะขยายตัวร้อยละ 6.2 ลดลงจากร้อยละ 6.6 เมื่อปีก่อน ซึ่งจะถือว่าต่ำที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี และน่าจะลดลงเหลือร้อยละ 6 ในปีหน้า.-สำนักข่าวไทย