ปารีส 11 ก.ค.- วุฒิสภาฝรั่งเศสให้ความเห็นชอบการเก็บภาษีบริษัทให้บริการดิจิทัลแล้ว และอาจเปิดแนวรบสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐกับสหภาพยุโรป หรืออียู
มาตรการนี้จะเก็บภาษีร้อยละ 3 ของรายได้กับบริษัทผู้ให้บริการดิจิทัลที่มีรายได้ในฝรั่งเศสเกิน 25 ล้านยูโร (เกิน 863 ล้านบาท) และรายได้ทั่วโลกเกิน 750 ล้านยูโร (เกิน 25,886 ล้านบาท) มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่ต้นปีนี้ นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสกล่าวต่อวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ก่อนลงมติว่า พันธมิตรไม่ควรแก้ไขความขัดแย้งด้วยการข่มขู่ แต่ควรใช้วิธีอื่น ฝรั่งเศสเป็นประเทศอธิปไตย การตัดสินใจเรื่องภาษีเป็นอำนาจสูงสุดของประเทศ และจะเป็นอำนาจอธิปไตยต่อไป หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐมีคำสั่งเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐให้เปิดการสอบสวนว่า ฝรั่งเศสทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่ ปูทางให้สหรัฐสามารถเก็บภาษีลงโทษหรือดำเนิมาตรการจำกัดทางการค้าอื่น ๆ ได้
ฝรั่งเศสผลักดันเรื่องนี้เนื่องจากอียูไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องภาษีที่จะใช้ทั่วยุโรป เพราะถูกคัดค้านจากไอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน และฟินแลนด์ ขณะที่ออสเตรีย อังกฤษ สเปน และอิตาลีประกาศจะเดินหน้าเก็บภาษีดิจิทัลของตนเอง โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องทำเพราะบริษัทอินเทอร์เน็ตข้ามชาติอย่างเฟซบุ๊ก แอมะซอน แจ้งกำไรเพื่อเสียภาษีในประเทศที่เก็บภาษีต่ำ โดยไม่คำนึงว่าทำรายได้จากประเทศใด กระแสกดดันทางการเมืองในเรื่องนี้ทวีความรุนแรงเพราะธุรกิจในประเทศทั้งระดับสูงและออนไลน์ร้องเรียนว่า เสียเปรียบบริษัทข้ามชาติ ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศสกล่าวว่า การเก็บภาษีอัตราสูงกับบริษัทใหญ่เป็นเรื่องความเป็นธรรมทางสังคม
สหรัฐและอียูมีข้อพิพาทการค้ากันอยู่แล้วจากการที่ต่างฝ่ายต่างขู่เก็บภาษีตอบโต้กับเครื่องบิน รถแทรกเตอร์ และอาหาร เพราะข้อพิพาทที่ร้องเรียนในองค์การการค้าโลกมาร่วม 15 ปี เรื่องสหรัฐอุดหนุนโบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐและอียูอุดหนุนแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินของยุโรป นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมกับอียู และขู่จะเก็บภาษีลงโทษยานยนต์และอะไหล่จากอียูหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากันได้.-สำนักข่าวไทย