นิวเดลี 11 ก.ค.- คณะเจรจาการค้าของอินเดียและสหรัฐจะฟื้นการเจรจาวันศุกร์นี้ โดยมีสัญญาณน้อยมากว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถประนีประนอมเรื่องมาตรการปกป้องทางการค้าที่ต่างฝ่ายต่างนำมาใช้ในช่วงหลายเดือนมานี้ จนทำให้ความสัมพันธ์ตึงเครียด
โฆษกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐเผยว่า เนื่องจากการเลือกตั้งอินเดียได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐจึงเดินทางไปสานสัมพันธ์กับอินเดีย โดยมีนายคริสโตเฟอร์ วิลสัน ผู้ช่วยผู้แทนการค้าเอเชียกลางและเอเชียใต้เป็นผู้นำคณะไปเจรจาที่กรุงนิวเดลีในวันศุกร์นี้ คาดว่าจะพบกับนายปียุช โกยัล รัฐมนตรีพาณิชย์อินเดียและเจ้าหน้าที่การค้าสำคัญอีกหลายคน ด้านเจ้าหน้าที่อินเดียเผยว่า รัฐบาลคาดว่าสหรัฐจะคัดค้านเรื่องที่อินเดียต้องการให้บริษัทต่างชาติเก็บข้อมูลไว้ในอินเดียให้มากขึ้น และจะขอให้อินเดียทบทวนระเบียบการลงทุนต่างชาติในธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ทำให้บริษัทอเมริกันรายใหญ่อย่างวอล์มาร์ตและแอมะซอนต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำธุรกิจในอินเดีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐทวีตย้ำเมื่อไม่กี่วันก่อนให้อินเดียเปิดตลาดให้มากขึ้น และว่าการที่อินเดียตั้งภาษีอัตราสูงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ หลังจากนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่ได้รับเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อเดือนพฤษภาคมผลักดันนโยบายชาตินิยมด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทุกอย่างและเข้มงวดการควบคุมบริษัทต่างชาติหวังช่วยธุรกิจในประเทศและสร้างงานให้หนุ่มสาวว่างงานในประเทศ ผู้นำทั้งสองตกลงนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือจี 20 (G20) ที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนก่อนว่า จะหาทางแก้ไขข้อพิพาททางการค้า
รอยเตอร์ชี้ว่า ประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลอินเดียกังวลคือ รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันให้เปิดเขตการค้าเสรีทวิภาคี ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอินเดียลดลง เปิดทางให้สินค้าอเมริกันทะลักเข้าอินเดีย และกระทบโครงการ Make in India ของนายกรัฐมนตรีโมดี ปีที่แล้วการค้าทวิภาคีมีมูลค่า 141,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.32 ล้านล้านบาท) อินเดียเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 24,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 741,048 ล้านบาท).- สำนักข่าวไทย