กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-กรมชลประทาน อาจปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเกินกว่า 2,000 ลบ.ม./วินาที ตามที่กนช. เห็นชอบ เหตุน้ำเหนือหลากลงมาเพิ่มขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะขยับลงมาพาดผ่านภาคกลาง เตือนทั้งพื้นที่เหนือและท้ายเขื่อนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทานกล่าวว่า จากอิทธิพลของฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,250 ลบ.ม./วินาที ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) จึงมีมติเห็นชอบให้ กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,000–2,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 40–60 เซนติเมตร ทั้งนี้กรมชลประทานได้ใช้เขื่อนเจ้าพระยาหน่วงน้ำไว้ที่หน้าเขื่อนอยู่ที่ระดับ +17.18 เมตร รทก. ซึ่งหากระดับน้ำหน้าเขื่อนสูงกว่านี้ จะเริ่มส่งผลกระทบต่อชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านเหนือเขื่อนในจังหวัดอุทัยธานีและชัยนาท ดังนั้นจึงให้สำนักงานชลประทานที่ 12 เพิ่มการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งจนเต็มศักยภาพของคลองแล้ว หากมีน้ำเหนือไหลลงมาเพิ่ม ประกอบกับมีฝนตกลงมาเสริมในปลายสัปดาห์ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ อาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นอีกเล็กน้อย สำหรับพื้นที่เสี่ยงด้านท้ายเขื่อนที่จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำเพิ่ม ได้แก่ •จ.ชัยนาท: ต.โพนางดำออก และบ้านท่าทราย อ.สรรพยา•จ.สิงห์บุรี: วัดสิงห์ […]