มาเลเซียเล็งเป็นผู้นำพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนในอาเซียน

กัวลาลัมเปอร์ 11 มิ.ย.- นางเหยียว บียิน รัฐมนตรีพลังงาน เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมมาเลเซียเผยวันนี้ว่า มาเลเซียตั้งเป้าจะเป็นผู้นำการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 


นางเหยียวกล่าวในการประชุมเศรษฐกิจหมุนเวียนที่จัดโดยคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำมาเลเซียว่า หลายคนชอบถามเธอว่ามาเลเซียเป็นประเทศเล็ก จะทำสิ่งเหล่านี้ทำไม ในเมื่อสิ่งที่ทำจะมีผลน้อยมาก เธอมักตอบว่า เมื่อใดก็ตามที่เราพยายามทำบางอย่าง เราจะอยู่แถวหน้าของสิ่งนั้น เราจะสร้างงานและการเติบโตผ่านสิ่งนั้น มาเลเซียอยากเป็นผู้นำในการสร้างเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคนี้ รัฐบาลจะใช้วิธีการแบบหลากหลายทางในการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน มีทั้งการทำให้สาธารณชนเกิดความตระหนัก การให้มาตรการจูงใจทางการเงินแก่บริษัทต่าง ๆ รวมทั้งธุรกิจขนาดกลางและย่อม และการออกกฎหมาย 

รัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลจะทำตัวเป็นตัวอย่างในฐานะที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในประเทศ และใช้เงินมากที่สุดผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปี หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งไปยังกระทรวงต่าง ๆ แล้วให้ยึดตามแผนนี้ในการจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ รัฐบาลใช้งบประมาณรายจ่ายปีละ 280,000 ล้านริงกิต (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) หากใช้อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ที่ทำงานด้านนี้ เพราะนอกจากให้แรงจูงใจทางการเงินเรื่องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังต้องสร้างความต้องการใช้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เธอยังอยากให้เพิ่มเรื่อง Replacement หรือทดแทน ไว้ในหลักการผลิตภาคอุตสาหกรรม 3 อย่างคือ Reduce ลดใช้ Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ด้วย.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย