สื่ออินโดนีเซียชี้จุดแข็งที่เป็นเกราะป้องกันประเทศจากเบลต์แอนด์โรดของจีน

จาการ์ตา 10 มิ.ย.- หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ของอินโดนีเซียมองว่า อินโดนีเซียมีจุดแข็งสองประการที่จะช่วยปกป้องประเทศไม่ให้ได้รับผลกระทบทางลบจากการเข้าร่วมโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ในศตวรรษที่ 21 หรือบีอาร์ไอ (Belt and Road Initiative) ของจีน 


จาการ์ตาโพสต์ระบุว่า ช่วงหลายเดือนมานี้มีเสียงเตือนอินโดนีเซียให้ระวังการติดกับดักหนี้สิน ถูกกองทัพคนงานจีนรุกราน และเสียอธิปไตย หลังจากอินโดนีเซียประกาศว่าจะรับข้อเสนอมูลค่ามหาศาลของบีอาร์ไอเพื่อนำมาสนับสนุนโครงการสาธารณูปโภคยักษ์ใหญ่ของประเทศ รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลาซึ่งไปร่วมประชุมที่จีนเมื่อเดือนเมษายนเผยว่า โครงการ 28 โครงการมูลค่ารวม 91,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.85 ล้านล้านบาท) จะได้รับการสนับสนุนจากบีอาร์ไอ ทำให้มีเสียงติงว่าอินโดนีเซียจะซ้ำรอยศรีลังกา ปากีสถานและมาเลเซียที่เจอปัญหาจากให้จีนเข้ามาดำเนินโครงการ 

จาการ์ตาโพสต์ชี้ว่า เสียงเตือนเหล่านี้มองข้ามจุดแข็งสองอย่างที่เป็นเกราะปกป้องอินโดนีเซียไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการรับการลงทุนจากจีนมากเกินไป อย่างแรกอินโดนีเซียเป็นประเทศใหญ่และมีอำนาจต่อรองกับจีนมากกว่าประเทศเหล่านั้น อินโดนีเซียมีประชากรมากอันดับสี่ของโลก มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับเจ็ดของโลก ส่งวัตถุดิบและผลผลิตทางการเกษตรไปให้จีน ควบคุมเส้นทางน้ำสากลที่ใช้ลำเลียงสินค้าเข้าและออกจากจีน อย่างที่สองอินโดนีเซียเป็นประเทศประชาธิปไตย ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความเห็น รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะถูกสาธารณชนตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและต้องรับผิดชอบการกระทำทุกอย่าง รวมถึงนโยบายการรับการลงทุนจากต่างชาติอย่างจีนด้วย ประชาธิปไตยและรัฐบาลที่โปร่งใสมีความรับผิดชอบคือปราการแรกในการยับยั้งการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันจีนซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตยและถูกทั่วโลกวิพากษ์วิจารณ์บีอาร์ไอเชิงลบ ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนพยายามทำให้บีอาร์ไอมีความโปร่งใสและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น 


จาการ์ตาโพสต์ยอมรับว่า ทักษะในการเจรจาของอินโดนีเซียยังคงอ่อนด้อยอยู่มาก มักจะอ่อนข้อยอมให้มากกว่ารับ จึงต้องเรียนรู้บทเรียนความผิดพลาดจากประเทศอื่น หมั่นตรวจสอบแบบประชาธิปไตยและรักษากลไกการสร้างสมดุลอยู่เสมอ แต่อย่าประเมินศักยภาพของตนเองต่ำเกินไป.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” คณะกรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี