นอร์มังดี 6 มิ.ย.- ผู้นำระดับโลกจะร่วมพิธีรำลึก 75 ปี วันที่กองกำลังสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่หาดมอร์มังดีของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2487 เพื่อสดุดีวีรชนทหารกล้าผู้พลีชีพผลักดันกองกำลังนาซีที่ยึดครองฝรั่งเศสสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ผู้นำโลกจะพบกันเป็นครั้งที่สองในสัปดาห์นี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกยังคงมีความกลมเกลียวท่ามกลางกระแสขัดแย้งที่เพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ผู้นำ 16 ประเทศประกาศร่วมกันในพิธีรำลึกวันที่กองกำลังสัมพันธมิตรออกจากท่าเรือเมืองพอร์ทส์มัธของอังกฤษว่า จะร่วมกันยับยั้งไม่ให้ความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกและจะร่วมกันปกป้องเสรีภาพทุกเมื่อที่ถูกคุกคาม อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีที่ร่วมในพิธีรำลึกที่พอร์ทสมัธจะไม่ได้ร่วมในพิธีรำลึกที่นอร์มังดี
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่ได้รับเชิญในพิธีรำลึก 60 ปีเมื่อปี 2547 ไม่ได้รับเชิญในปีนี้ บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตะวันตกกับรัสเซียที่ตึงเครียด โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า การบุกของกองกำลังสัมพันธมิตรไม่ได้ชี้ขาดผลของสงครามโลกครั้งที่สอง จึงไม่ควรขยายความสำคัญจนเกินจริงนัก สิ่งที่ชี้ขาดชัยชนะคือความพยายามของสหภาพโซเวียตที่เข้าร่วมสงครามตั้งแต่ปี 2484 มากกว่า
วันที่ 6 มิถุนายน 2487 หรือที่ปัจจุบันเรียกว่าวันที่ยาวนานที่สุด เป็นวันที่ทหารกองกำลังสัมพันธมิตร 156,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารอเมริกัน อังกฤษและแคนาดา ยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดีเพื่อเริ่มปฏิบัติการปลดปล่อยประเทศที่ถูกนาซียึดครอง จึงเรียกว่าวันดีเดย์ D-Day ย่อมาจาก Deliverance Day ถือเป็นปฏิบัติการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เฉพาะวันแรกวันเดียวมีทหารล้มตายถึง 4,400 นาย.- สำนักข่าวไทย