จีน 19 ส.ค.-นางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาร์ ยังคงอยู่ในระหว่างการเยือนจีนเป็นเวลา 5 วัน โดยได้มีโอกาสพบหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง และประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง และวันนี้จีนและเมียนมาร์ จะได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศ และสร้างโรงพยาบาล 2 แห่งในเมียนมาร์ด้วย
ก่อนหน้านั้นระหว่างพบหารือกับ นายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนนายหลี่ ได้กล่าวในระหว่างพิธีต้อนรับนางซูจีว่า การเยือนจีนของนางแสดงให้เห็นว่า เมียนมาร์ให้ความสำคัญกับจีนเป็นอย่างมาก ในฐานะที่ 2 ประเทศ มีพรมแดนติดต่อเชื่อมถึงกัน ขณะที่นางซูจี ก็แสดงความหวังว่าสัมพันธภาพระหว่างจีนและเมียนมาจะพัฒนายิ่งๆขึ้นไป ผู้นำทั้ง 2 ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการหารือ แต่คาดกันว่าน่าจะมีการรื้อฟื้นโครงการก่อสร้างเขื่อนมิตโสน มูลค่า 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 230,000 ล้านบาทขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังถูกระงับไป ตั้งแต่ปี 2554 โดยจีนต้องการให้เมียนมาไฟเขียวโครงการนี้อีกครั้ง ขณะที่ฝ่ายเมียนมาต้องการให้จีนช่วยสนับสนุน การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยโกก้าง ที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ชายแดนทางตอนเหนือ ของเมียนมาร์ติดกับจีน
ทั้งนี้กองกำลังโกก้างมักใช้จีนเป็นแหล่งหลบซ่อน และการปะทะระหว่างกองทัพเมียนมาร์กับชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ ก็ก่อให้เกิดปัญหาผู้อพยพหนีภัยสงครามหลบหนีข้ามชายแดนเข้าไปยังจีน อีกทั้งกระสุนปืนใหญ่จากสงครามก็เคยข้ามไปตกในดินแดนจีน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตสร้างความตึงเครียดมาแล้วหลายครั้ง ขณะเดียวกันสื่อทางการจีนพยายามประโคมข่าวว่า การเยือนจีนของนางซูจี แสดงให้เห็นว่าเมียนมาร์ให้ความสำคัญกับจีนมากกว่าสหรัฐ สำหรับโครงการสร้างโรงพยาบาลนั้น แห่งหนึ่งจะสร้างที่นครย่างกุ้ง อีกแห่งจะสร้างที่เมืองมัณฑะเลย์ ส่วนสะพานจะสร้างที่เมืองกุนโหลงเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมียนมาร์ ห่างจากชายแดนราว 32 กม. และเป็นบริเวณที่ชนกลุ่มน้อยโกก้างสู้รบกับกองทัพเมียนมาเมื่อปีที่แล้วอย่างหนักหน่วง.-สำนักข่าวไทย