ซันติอาโก 5 มิ.ย.- ชิลี ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติในเดือนธันวาคมปีนี้ ประกาศจะทยอยปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินที่มีอยู่ทั้งหมด 28 โรง ภายในปี 2583 แล้วหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนแทน
ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปีเญราของชิลีประกาศระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองโตโกปิยา ทางเหนือของประเทศที่มีมลพิษสูงว่า จะปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน 8 โรงภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีกำลังผลิตร้อยละ 20 ของการผลิตทั้งประเทศหรือราว 23,000 เมกะวัตต์ เป็นหนทางที่เป็นรูปธรรมและแท้จริงในการทำให้คำพูดและคำมั่นกลายเป็นความจริง และในระหว่างที่ปิดใช้งานนั้น โรงฟ้าเหล่านี้จะอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน การปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินเหล่านี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงจากปีละ 30 ล้านตันในปัจจุบันเหลือปีละ 4 ล้านตันภายในปี 2567 ประธานาธิบดีปีเญราผลักดันนโยบายพลังงานสะอาดมาโดยตลอด สนับสนุนให้ใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างลม แสงอาทิตย์ และความร้อนใต้พิภพ
ชิลีซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าพลังงานสุทธิพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินตลอดทศวรรษที่ผ่านมาเพราะยุติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากอาร์เจนตินา แต่ได้กลับมานำเข้าอีกครั้งเมื่อปีก่อนหลังจากทำข้อตกลงใหม่กับอาร์เจนตินา เปิดทางให้สามารถลดการพึ่งพาถ่านหินลง ปัจจุบันชิลีมีโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินทั้งหมด 28 โรง ผลิตไฟฟ้าร้อยละ 40 ของกำลังผลิตทั้งประเทศ ตั้งเป้าจะทยอยยกเลิกทั้งหมดภายในปี 2583 และเป็นประเทศปลอดคาร์บอนอย่างเต็มตัวในอีก 10 ปีถัดไป ชิลีจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือซีโอพี (COP) ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ เนื่องจากบราซิลถอนตัวหลังจากนายชาอีร์ โบลโซนาโร ผู้ไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีตั้งแต่ต้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย