มะนิลา 31 พ.ค. – ขยะปริมาณหลายตันที่ส่งมายังฟิลิปปินส์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถูกส่งกลับคืนไปให้แคนาดาแล้วในวันนี้หลังจากมีการปะทะกันทางการทูตระหว่างสองประเทศ ในขณะที่หลายประเทศในเอเชียเริ่มไม่ยอมรับสภาพที่จะกลายเป็นแหล่งทิ้งขยะของนานาประเทศ
ขยะที่บรรจุอยู่ในตู้สินค้า 69 ตู้คอนเทนเนอร์ถูกนำขึ้นบนเรือสินค้าที่อ่าวซูบิค ซึ่งเคยเป็นท่าเรือสินค้าและฐานทัพของกองทัพเรือสหรัฐที่อยู่ทาวตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมะนิลา และเริ่มการเดินทางระยะทางยาวไกลไปยังแคนาดา นายธีโอโดโร ล็อคซิน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ทวีตข้อความในทวิตเตอร์กล่าวคำอำลาพร้อมกับลงภาพถ่ายของเรือสินค้าที่กำลังออกจากท่าเรือ ในขณะที่นางแคเธอรีน แม็คเคนนา รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของแคนาดากล่าวแสดงความยินดีที่ได้รับทราบข่าวว่า ขณะกำลังถูกส่งคืนมาแคนาดา พร้อมกับกล่าวว่า แคนาดาให้คำมั่นกับฟิลิปปินส์และกำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกันในเรื่องนี้ ข้อพิพาททางการทูตที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นจากตู้สินค้าหลายสิบตู้ที่บริษัทแคนาดาส่งมายังฟิลิปปินส์ในช่วงปี 2013-2014 โดยสำแดงเท็จว่าเป็นสินค้าที่นำไปแปรรูปแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้ ไม่พอใจอย่างมาก โดยประกาศสงครามกับแคนาดาในเรื่องนี้ หลังจากนั้น แคนาดาสัญญาว่าจะนำขยะกลับคืน แต่เมื่อผ่านกำหนดเส้นตายที่ฟิลิปปินส์กำหนดในวันที่ 15 พ.ค. ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากแคนาดา ทำให้ฟิลิปปินส์เรียกตัวทูตกลับประเทศ และประกาศจะส่งขยะคืนแคนาดาเองและขู่จะทิ้งขยะในน่านน้ำของแคนาดา ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน มาเลเซียก็ประกาศว่า จะส่งขยะพลาสติก 450 ตันกลับไปยังประเทศต้นทาง รวมทั้งออสเตรเลีย บังกลาเทศ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐ ในขณะที่จีน ซึ่งเคยรับสินค้าขยะพลาสติกจากทั่วโลกมาเป็นเวลาหลายปี ก็ปิดประตูรับของเสียจากต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว เพื่อพยายามฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในประเทศ.-สำนักข่าวไทย