ซิดนีย์ 28 พ.ค.- นครซิดนีย์ของออสเตรเลียประกาศจำกัดการใช้น้ำของภาคครัวเรือนและธุรกิจเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ เนื่องจากภาวะแล้งเป็นประวัติการณ์
รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอกประกาศในวันนี้ว่า ปริมาณน้ำที่เก็บกักไว้ในนครซิดนีย์และปริมณฑลใกล้แตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1940 ดังนั้นทางการจะเริ่มจำกัดการใช้น้ำตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ด้านรัฐมนตรีกระทรวงน้ำของรัฐนิวเซาท์เวลส์แถลงว่า รัฐนี้กำลังเผชิญภาวะแห้งแล้งเป็นประวัติการณ์ การจำกัดการใช้น้ำในนครซิดนีย์และปริมณฑลจึงเท่ากับว่าคนทั้งรัฐกำลังช่วยกันอนุรักษ์น้ำ เพราะนครซิดนีย์มีคนหนาแน่นที่สุดในประเทศ ผู้ปล่อยให้น้ำไหลทิ้งจากสายยางหรือใช้สปริงเกอร์รดน้ำต้นไม้จะถูกปรับสูงสุด 220 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 4,840 บาท) สำหรับครัวเรือน และสูงสุด 550 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 12,100 บาท) สำหรับธุรกิจ
นครซิดนีย์เคยจำกัดการใช้น้ำครั้งหลังสุดในปี 2552 พร้อมกับเมืองใหญ่ทุกเมืองทั่วประเทศ เพราะภาวะแห้งแล้งรุนแรงที่บางพื้นที่กินเวลานานกว่าทศวรรษ สภาพอากาศในออสเตรเลียมีทั้งไฟป่า น้ำท่วม และแล้งในช่วงฤดูร้อน การบริหารจัดการน้ำกลายเป็นประเด็นร้อนในการเลือกตั้งก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ปีนี้ชาวออสเตรเลียเผชิญฤดูร้อนที่ร้อนที่สุด และเมื่อเดือนมกราคมเกิดปรากฏการณ์ปลาในน้ำเมอร์เรย์-ดาร์ลิงตายลอยเกลื่อน ทางการโทษว่าเป็นเพราะกระแสน้ำไหลน้อยและขาดออกซิเจน แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เป็นเพราะพื้นที่ตอนในของภาคตะวันออกเกิดภาวะแห้งแล้ง.- สำนักข่าวไทย