fbpx

ศาลอุทธรณ์ญี่ปุ่นพิพากษายืนโทษตายแม่หม้ายดำฆ่าผู้ชายหลายคน

โตเกียว 24 พ.ค.- ศาลอุทธรณ์ญี่ปุ่นพิพากษายืนโทษประหารชีวิตสตรีวัย 72 ปี เจ้าของฉายาแม่หม้ายดำที่วางยาชายชราร่ำรวยเข้ามาติดพันเสียชีวิตหลายคน และพยายามฆ่าอีกหนึ่งคน หวังเงินประกันและมรดก จนเป็นข่าวใหญ่พูดถึงกันทั้งประเทศ


ศาลสูงโอซากาพิพากษายืนโทษแขวนคอประหารชีวิตนางชิซาโกะ คาเคฮิ ข้อหาฆาตกรรมชายสามคนด้วยไซยาไนด์ หนึ่งในนั้นเป็นสามีของเธอ และข้อหาพยายามฆาตกรรมชายอีกคน การใช้ไซยาไนด์กับชายชราร่ำรวยที่เข้ามาติดพันทำให้เธอถูกเปรียบเทียบกับแมงมุมแม่หม้ายดำที่ฆ่าตัวผู้หลังผสมพันธุ์ สำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่า ทนายความของเธอได้ยื่นฎีกาแล้ว ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นมีคำตัดสินในปี 2560 ว่า เป็นการฆาตกรรมอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมและประสงค์ร้าย นางคาเคฮิให้เหยื่อดื่มไซยาไนด์หวังฆ่าให้ตาย ไม่ได้ทำไปเพราะจิตเสื่อมตามที่ทนายของเธออ้าง

คดีนี้ใช้เวลาพิจารณาคดียาวนานถึง 135 วัน ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจล้นหลาม มีผู้เข้าแถวยาวเหยียดกว่า 560 คนหวังได้เป็นหนึ่งใน 51 คนที่ได้เข้าไปในห้องพิจารณาคดี มีข่าวว่านางคาเคฮิได้เงินร่วมหนึ่งพันล้านเยน (ราว 291 ล้านบาท) ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา แต่หมดไปกับการซื้อขายทางการเงินที่ขาดทุน เธอมีความสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน ส่วนใหญ่สูงอายุหรือไม่สบาย บางครั้งรู้จักกันผ่านบริษัทจัดหาคู่ที่เธอมักกำหนดคุณสมบัติว่าต้องมีฐานะดีและไม่มีลูก 


นอกจากฉายาแม่หม้ายดำแล้ว เธอยังมีฉายาสตรีพิษ เพราะซุกซ่อนไซยาไนด์ไว้ในกระถางต้นไม้ที่เธอเอาไปทิ้งในภายหลัง เจ้าหน้าที่พบร่องรอยไซยาไนด์ในศพชายอย่างน้อยสองคนที่เธอข้องเกี่ยวด้วย มีข่าวว่าตำรวจพบร่องรอยไซยาไนด์ในขยะที่บ้านของเธอในเมืองเกียวโต พบอุปกรณ์การใช้ไซยาไนด์และหนังสือทางการแพทย์ที่อพาร์ตเมนต์ของเธอในเมืองเกียวโต เดิมเธอไม่ยอมให้การในศาล แต่จู่ ๆ ก็รับสารภาพว่าฆาตกรรมชายคนหนึ่งเพราะเขาให้เงินผู้หญิงอื่น แต่ไม่ยอมให้เธอ เธอให้สัมภาษณ์จิจิเพรสเมื่อเดือนก่อนว่า ขอตายเพื่อชดใช้กรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME