เซี่ยงไฮ้ 22 พ.ค.- สายการบินใหญ่ที่สุดสามแห่งของจีนฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินสหรัฐ กรณีที่ต้องจอดเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ และได้รับส่งมอบเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ 8 ล่าช้า หลังจากเครื่องบินรุ่นนี้เกิดอุบัติเหตุสองครั้งภายในเวลาห่างกันไม่ถึง 5 เดือน
สื่อทางการจีนหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ซึ่งมีฝูงบินมากที่สุดในเอเชีย ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ สายการบินใหญ่อันดับสองของจีน และแอร์ไชน่า สายการบินแห่งชาติของจีน ต้องการเรียกค่าเสียหายจากโบอิง แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ยืนยันว่า ข่าวที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าทางสายการบินเรียกค่าเสียหายจากโบอิงเป็นเรื่องจริง ขณะที่อีกสองสายการบินยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ ซินหัวรายงานว่า ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่นครเซี่ยงไฮ้สั่งจอด 737 แม็กซ์ 8 ทั้ง 14 ลำ ระหว่างที่รอโบอิงแก้ไขความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย ทำให้เสียหายอย่างมาก
จีนป็นประเทศแรกที่สั่งจอดเครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม หนึ่งวันหลังจากเครื่องบินรุ่นนี้ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ตกหลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานได้ไม่กี่นาที เสียชีวิตหมดทั้งลำ 157 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวจีน 8 คน ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนตุลาคม เครื่องบินรุ่นเดียวกันของสายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซียก็ตกลักษณะเดียวกัน เสียชีวิตหมดทั้งลำ 189 คน สื่อทางการจีนรายงานว่า สายการบินจีนใช้เครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์รวมทั้งหมด 96 ลำ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโบอิงเกี่ยวข้องกับสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ยืดเยื้ออยู่ในขณะนี้หรือไม่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดฉากสงครามการค้าตั้งแต่ต้นปีก่อน หวังบีบให้จีนปฏิรูปแนวทางการทำการค้า โดยกล่าวหาจีนว่า หาทางครอบงำอุตสาหกรรมโลกด้วยการที่ภาครัฐเข้ามาแทรกแซงตลาดขนานใหญ่และขโมยเทคโนโลยีสหรัฐ จนถึงขณะนี้ทั้งสองประเทศเก็บภาษีตอบโต้กันกับสินค้ามูลค่ากว่า 360,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 11.52 ล้านล้านบาท) แล้ว.- สำนักข่าวไทย