ปารีส 23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสกล่าวว่า การโจมตีของกลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิม การประท้วงหยุดงาน และเหตุการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหดหายไปจากเมืองหลวงของฝรั่งเศสในครึ่งปีแรก และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์สูญเสียรายได้ไปกว่า 750 ล้านยูโร หรือราว 29,500 ล้านบาท
นายเฟรเดริก วาลตู ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ของฝรั่งเศสแถลงวันนี้ว่า ภาคการท่องเที่ยวกำลังเผชิญกับภัยพิบัติทางอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนมหาศาลเพื่อคุ้มครองอาชีพในภาคส่วนนี้ และเขาขอเรียกร้องให้นายฌอง-มาร์ค เอโรต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวท้องถิ่นโดยเร็ว ประชาชนราว 500,000 คนในแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของแคว้น
เศรษฐกิจของฝรั่งเศสพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก โดยคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 7 ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และร้อยละ 13 มาจากการท่องเที่ยวในแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งรวมถึงเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกอย่างกรุงปารีส แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฝรั่งเศสกลับต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส การประท้วงหยุดงานต่อต้านการปฏิรูปด้านแรงงาน และเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศ.- สำนักข่าวไทย