ลิมา 25 เม.ย.- เอกอัครราชทูตจีนประจำเปรูเผยว่า เปรูจะลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยูเข้าร่วมในโครงการเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 (Belt and Road) ที่เป็นความริเริ่มของจีนในเร็ว ๆ นี้
นายเจี่ย กุ้ยเต๋อ เอกอัครราชทูตจีนประจำเปรูเผยเรื่องนี้ต่อแขกเหรื่อในงานเลี้ยงส่วนตัวที่กรุงลิมา เป็นวันเดียวกันกับที่จีนได้เปิดการประชุมสุดยอด Belt and Road ที่กรุงปักกิ่งเป็นเวลาสามวัน โดยมีรัฐมนตรีการค้าเปรูและผู้นำจากชาติสมาชิก Belt and Road เข้าร่วม ด้านรองประธานาธิบดีเมอร์เซเดซ อาเราซ์ของเปรูกล่าวในงานเดียวกันว่า การลงนามเอ็มโอยูนี้เป็นจุดเริ่มต้นรูปแบบความร่วมมือที่จีนเสนอต่อประชาคมโลก ซึ่งจะเอื้อให้เปรูขยายความสัมพันธ์ได้กว้างขวางขึ้น เปรูมีความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แนบแน่นกับจีน เช่นเดียวกับที่มีกับสหรัฐ
การตัดสินใจของเปรูมีขึ้นหลังจากที่นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐตระเวนเยือนสี่ประเทศในอเมริกาใต้รวมทั้งเยือนเปรูได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ นายพอมเพโอย้ำอยู่เสมอว่า การให้กู้ยืมแบบล่าเหยื่อของจีนในโครงการนี้มีอันตราย จีนแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของเปรูเมื่อหลายปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าทองแดงและสินแร่ การลงทุนของจีนในเปรูส่วนใหญ่เป็นการทำเหมือง แต่ช่วงหลายปีมานี้ได้ขยายให้ครอบคลุมเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนประกาศโครงการ Belt and Road ที่ใช้ชื่อในตอนแรกว่า One Belt, One Road เมื่อปี 2556 เพื่อขยายการเชื่อมโยงจีนกับเอเชีย แอฟริกา และยุโรปผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ามหาศาล แต่เมื่อต้นปีก่อนจีนได้เชิญประเทศในลาตินอเมริกาและทะเลแคริบเบียนมาเข้าร่วมด้วย ชิลี หนึ่งในพันธมิตรสหรัฐในอเมริกาใต้ประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนว่าจะเข้าร่วมโครงการนี้.- สำนักข่าวไทย