นิวยอร์ก 2 เม.ย.- สังคมอเมริกันกำลังเกิดกระแสถกเถียงเรื่องพื้นที่ส่วนตัว หลังเกิดกรณีบียอนเซ่ นักร้องหญิงชื่อดังถูกนักแสดงชายจูบแก้มเฉียดริมฝีปากบนเวทีมอบรางวัล และกรณีนายโจ ไบเดิน อดีตประธานาธิบดีถูกกล่าวหาหอมศีรษะลูกพรรค
แฟนเพลงบียอนเซ่พากันทวีตตำหนินายโอมารี ฮาร์ดวิค นักแสดงวัย 45 ปี ว่าละเมิดพื้นที่ส่วนตัว กรณีจูบแก้มนักร้องหญิงวัย 37 ปีสองครั้ง และเกือบถูกริมฝีปากเธอ ขณะเธอขึ้นไปรับรางวัลศิลปินแห่งปีบนเวที NAACP Image Award ที่ยกย่องศิลปินผิวสีในสหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บียอนเซ่ไม่ว่าอะไรแต่สีหน้าแสดงความอึดอัดใจอย่างชัดเจน ขณะที่เจย์-ซี นักร้องแร็ปผู้เป็นสามียืนอยู่ข้าง ๆ ส่วนกรณีของอดีตรองประธานาธิบดีไบเดนวัย 76 ปี เกิดขึ้นในปี 2557 เมื่อเขาหอมศีรษะลูซี ฟลอเรส ส.ส.สภารัฐเนวาดาวัย 39 ปี ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ สับสนและถูกก้าวล่วง นายไบเดนเคยถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งและรอดพ้นได้ทุกครั้ง เขาเคยถูกบันทึกภาพในปี 2558 ขณะโอบไหล่ภรรยานายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมในขณะนั้นและโน้มตัวไปกระชิบข้างหูเธอ
ดร.ออเดรย์ เนลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและเพศในสหรัฐมองว่า ไบเดนอยู่ในฐานะที่มีพื้นที่ต้องห้ามอย่างชัดเจน การที่เขาใกล้ผู้หญิงอื่นถึงขนาดสัมผัสเส้นผมและไหล่จึงเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ส่วนกรณีของบียอนเซ่ แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมักควบคุมพื้นที่ส่วนตัวได้ไม่มากเท่าผู้ชายเพราะบอบบางกว่า เสียงเบากว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัวของผู้หญิงได้ พื้นที่ส่วนตัวเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่ระดับความตระหนักอาจไม่มากนัก จนกระทั่งกระแส #MeToo เรียกร้องสิทธิของผู้ถูกล่วงละเมิดช่วยเรียกร้องให้คนเคารพสิ่งที่เป็นพื้นฐานนี้
เอ็ดเวิร์ด ฮอลล์ นักมานุษยวิทยาเคยให้คำนิยามคำว่า เทศภาษา (Proxemics) ไว้ในปี 2506 กำหนดระยะห่างระหว่างคนสองคนไว้เป็นสี่ระดับประกอบด้วย ระยะใกล้ชิดไม่เกิน 45 เซนติเมตร ระยะส่วนบุคคล 45-120 เซนติเมตร ระยะเชิงสังคม 1.2-3.7 เมตร และระยะสาธารณะตั้งแต่ 3.7 เมตรขึ้นไป.-สำนักข่าวไทย