ปาร์กแลนด์ 25 มี.ค.- ชุมชนเมืองปาร์กแลนด์ รัฐฟลอริดาของสหรัฐขอให้ผู้ปกครองดูแลสภาพจิตใจลูกหลานที่รอดชีวิตจากเหตุยิงที่โรงเรียนมัธยมเมื่อวันวาเลนไทน์ปีก่อน หลังจากบาดแผลทางใจจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีเด็กฆ่าตัวตายแล้ว 2 คน
เหตุยิงที่โรงเรียนมัธยมสโตนแมน ดักลาสเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 มีนักเรียนและเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บอีก 17 คน ศิษย์เก่าวัย 19 ปี รับสารภาพว่าเป็นคนทำ ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองล่วงหน้า 17 กระทง และข้อหาพยายามฆ่า 17 กระทง นักเรียนหญิงวัย 19 ปีคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ฆ่าตัวตายสัปดาห์ก่อน มารดาเผยว่า บุตรสาวรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่ตายและเกิดอาการเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ หรือพีทีเอสดี (PTSD) ส่วนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นักเรียนอีกคนซึ่งเข้าโรงเรียนนี้หลังเกิดเหตุไปแล้วเสียชีวิตในลักษณะที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตายแต่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน
ชายคนหนึ่งที่สูญเสียบุตรสาวไปในเหตุการณ์เมื่อปีก่อนได้ตั้งมูลนิธิวอลก์อัพ (WalkUp) หวังป้องกันเด็กฆ่าตัวตายเพราะ รู้ดีว่าเด็กที่ผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญอย่างเหตุยิงในโรงเรียนมักแบกรับความรู้สึกผิด กังวล กดดัน ซึมเศร้า พร้อมกับขอให้ผู้ปกครองตระหนักว่า ลูกหลานไม่มีภูมิคุ้มกันเรื่องนี้ และต้องดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง แม้เด็กแสดงออกว่าไม่เป็นไรก็ตาม ด้านประธานคณะกรรมการบริการสำหรับเด็ก เทศมณฑลบราเวิร์ด รัฐฟลอริดาเผยว่า ผู้ปกครองและเด็กที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์แบบนี้มักรู้สึกไม่มีคนห่วงใยอย่างแท้จริง แค่อยากให้พวกเขาใช้ชีวิตตามปกติเท่านั้น ชุมชนจึงต้องช่วยกัน การให้เด็กคุยและให้กำลังใจกันอาจดีกว่าให้เด็กหันเข้าหาผู้ใหญ่ เพราะเด็กจะสื่อสารกันได้เข้าอกเข้าใจมากกว่า.- สำนักข่าวไทย
