ไครสต์เชิร์ช 23 มี.ค.- มัสยิดสองแห่งในนิวซีแลนด์ที่เกิดเหตุยิงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตรวม 50 คน เปิดให้สาธารณชนเข้าอีกครั้งในวันนี้ หนึ่งในผู้ที่เดินเข้าไปเป็นคนแรก ๆ คือผู้รอดชีวิตที่เข้าไปสวดมนต์ให้แก่เพื่อนร่วมชะตากรรม
ประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าไปในมัสยิดอัลนูร์ ที่มีตำรวจพร้อมอาวุธรักษาความปลอดภัย แต่ไม่เห็นร่องรอยของเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์แล้ว ชายคนหนึ่งที่สูญเสียลูกชายวัยเพียง 3 ขวบพร้อมกับอีกกว่า 40 ชีวิตที่มัสยิดแห่งนี้กล่าวว่า พระเจ้าทรงเมตตาต่อทุกคน เขาจึงต้องการกลับมาสวดมนต์ทันทีที่มัสยิดซ่อมแซมเสร็จ ชายอีกคนที่รอดชีวิตในวันนั้นกล่าวว่า จะไม่ยอมถูกขัดขวางความมุ่งมั่น มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พวกเขามาสวดมนต์และพบปะกัน พวกเขาจึงต้องกลับมา ส่วนมัสยิดลินวูดที่เกิดเหตุอีกแห่งหนึ่ง ตำรวจเผยว่า กำลังเปิดให้สาธารณชนในวันนี้เช่นเดียวกัน
ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นคนเข้าเมืองหรือผู้ลี้ภัยชาวมุสลิม การเสียชีวิตของพวกเขาจึงสร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลกมุสลิม ทางการนิวซีแลนด์ได้ยกระดับเตือนภัยตั้งแต่เกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น เร่งออกกฎหมายห้ามจำหน่ายปืนกึ่งอัตโนมัติแบบทหารและปืนยาวจู่โจมแบบที่คนร้ายใช้ก่อเหตุทันที ส่วนในช่วงเช้าวันนี้ มีการเดินขบวนไปทั่วเมืองไครสต์เชิร์ชเพื่อแสดงออกถึงความรักและการเยียวยาบาดแผลจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมประมาณ 3,000 คน ขณะที่เมื่อวานนี้มีการออกอากาศการเรียกทำละหมาดทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ และมีคนร่วม 20,000 คนร่วมพิธีที่สวนสาธารณะตรงข้ามมัสยิดอัลนูร์เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว.-สำนักข่าวไทย