จาการ์ตา 20 มี.ค.- แหล่งข่าวสามคนเผยว่า นักบินสายการบินไลอ้อนแอร์ที่ตกในทะเลชวาเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อนพยายามค้นในหนังสือคู่มือหาสาเหตุที่เครื่องบินดิ่งลงฉับพลันหลังทะยานขึ้นได้ไม่นาน แต่ไม่ทันการ เครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ตกในทะเลคร่าชีวิตหมดทั้งลำ 189 คน
คณะสอบสวนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้อย่างที่ทำให้เครื่องบินตก ทั้งเรื่องคอมพิวเตอร์สั่งการให้เครื่องบินดิ่งลงเพราะได้รับข้อมูลจากเซ็นเซอร์บกพร่อง และเรื่องนักบินผ่านการอบรมรับมือเหตุฉุกเฉินอย่างเหมาะสมหรือไม่ ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลจากกล่องดำบันทึกเสียงในห้องนักบินต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก โฆษกไลอ้อนแอร์เผยเพียงว่า ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งให้เจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วและไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ
รายงานการสอบสวนเบื้องต้นที่เปิดเผยเมื่อเดือนพฤศจิกายนระบุว่า กัปตันเป็นผู้นำเครื่องบินทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานจาการ์ตาด้วยตนเอง ส่วนนักบินผู้ช่วยเป็นผู้ติดต่อวิทยุสื่อสาร แต่หลังจากเครื่องบินขึ้นไปได้เพียงสองนาทีนักบินผู้ช่วยแจ้งหอควบคุมการบินว่า การควบคุมเครื่องบินมีปัญหาและต้องการรักษาระดับความสูงไว้ที่ 5,000 ฟุต แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นปัญหาอะไร แหล่งข่าวคนแรกเผยว่า เสียงในห้องนักบินพูดถึงเรื่องความเร็วเครื่องบิน แหล่งข่าวคนที่สองเผยว่า หน้าจอแสดงผลของกัปตันขึ้นว่ามีปัญหา แต่หน้าจอแสดงผลของนักบินผู้ช่วยไม่ขึ้น กัปตันจึงขอให้นักบินผู้ช่วยเช็คหนังสือคู่มือที่มีรายการตรวจสอบหรือเช็คลิสต์กรณีเกิดความผิดปกติ ผ่านไป 9 นาทีเครื่องบินเตือนนักบินทั้งสองว่าเครื่องยนต์สะดุดดับ กระแสลมใต้ปีกอ่อนกำลังเกินกว่าจะประคองเครื่องบินได้ จากนั้นคอมพิวเตอร์ก็กดหัวเครื่องบินดิ่งลงโดยอัตโนมัติ กับตันพยายามเชิดหัวเครื่องบินขึ้น แต่คอมพิวเตอร์ซึ่งยังคงได้รับสัญญาณผิดพลาดว่าเครื่องยนต์สะดุดดับยังคงกดหัวเครื่องบินลงต่อไป โดยใช้ระบบทริมที่เป็นการปรับตั้งส่วนควบคุมให้เข้าที่เพื่อประคองการบินให้ตรงและได้ระดับ แหล่งข่าวคนที่สามเผยว่า ดูเหมือนนักบินไม่รู้ว่าระบบทริมกำลังทำให้เครื่องดิ่งลง คิดว่าเป็นปัญหาความเร็วเครื่องบินและระดับความสูง จึงพูดแต่สองเรื่องนี้
รายงานเดือนพฤศจิกายนระบุว่า นักบินอีกชุดหนึ่งที่บินเครื่องบินลำเดียวกันในเย็นวันก่อนเกิดเหตุประสบปัญหาเดียวกันแต่สามารถแก้ปัญหาได้หลังทำตามเช็คลิสต์สามอย่าง และไม่ได้เล่าข้อมูลทั้งหมดให้แก่นักบินชุดถัดไป แหล่งข่าวทั้งสามคนเผยว่า ช่วงนาทีสุดท้ายกัปตันขอให้นักบินผู้ช่วยเป็นคนบังคับเครื่องบินในระหว่างที่เขาหาวิธีแก้ปัญหาจากหนังสือคู่มือ กัปตันได้แจ้งหอควบคุมการบินหนึ่งนาทีก่อนหายไปจากจอเรดาร์ให้ช่วยเคลียร์เครื่องบินลำอื่นที่บินต่ำกว่า 3,000 ฟุต และขอลงจอดจากระดับความสูง 5,000 ฟุต กัปตันเชื้อสายอินเดียวัย 31 ปี หาวิธีแก้ปัญหาไม่เจอ ส่วนนักบินผู้ช่วยชาวอินโดนีเซียวัย 41 ปี ไม่สามารถควบคุมเครื่องบินที่กำลังดิ่งลงได้ เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงสุดท้ายคือเสียงของนักบินผู้ช่วยที่พูดภาษาอาหรับว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ที่สุด.-สำนักข่าวไทย