เยรูซาเล็ม 4 มี.ค.- สหรัฐปิดสถานกงสุลในเยรูซาเล็มของอิสราเอลที่เป็นสถานทูตโดยพฤตินัยสำหรับชาวปาเลสไตน์แล้ว โดยผนวกไว้เป็นแผนกหนึ่งในสถานทูตสหรัฐประจำเยรูซาเล็มแทน
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประกาศเรื่องนี้ในเช้าวันนี้ตามเวลาอิสราเอลและให้มีผลทันที เท่ากับโยกอำนาจดูแลช่องทางการทูตของสหรัฐกับเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ไปขึ้นกับนายเดวิด ฟรีดแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอิสราเอลที่สนับสนุนและระดมทุนให้แก่การตั้งนิคมชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์มานานและมักวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำปาเลสไตน์อย่างรุนแรง โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า เป็นการตัดสินใจตามนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสถานทูตสหรัฐทั่วโลก ไม่ใช่การส่งสัญญาณว่าสหรัฐเปลี่ยนแปลงนโยบายเยรูซาเล็ม เวสต์แบงก์หรือฉนวนกาซา
นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกาศเรื่องปิดสถานกงสุลในเยรูซาเล็มครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ทำให้ชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจและยิ่งสงสัยว่าสหรัฐกำลังรับรองอำนาจของอิสราเอลเหนือเยรูซาเล็มตะวันออกและเวสต์แบงก์ที่ชาวปาเลสไตน์หวังจะเป็นที่ตั้งรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต นายซาอิบ อาเรกัต หัวหน้าคณะเจรจาของปาเลสไตน์ระบุว่า การกระทำของสหรัฐเท่ากับตอกหมุดปิดตายบทบาทของสหรัฐในการสร้างสันติภาพตะวันออกกลาง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐรับรองนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อปลายปี 2560 แล้วย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางปีก่อน ทำให้ปาเลสไตน์ตัดความสัมพันธ์เกือบทั้งหมดกับรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้สหรัฐยังลดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ปาเลสไตน์ ตัดงบอุดหนุนหน่วยงานสหประชาชาติที่จัดสรรความช่วยเหลือให้ผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ และปิดสถานที่ทางการทูตของปาเลสไตน์ในกรุงวอชิงตัน โดยอ้างว่าเป็นการลงโทษแกนนำปาเลสไตน์ที่ไม่ยอมเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล ขณะที่นายเจเรด คุชเนอร์ บุตรเขยประธานาธิบดีทรัมป์เผยเมื่อเดือนก่อนว่า สหรัฐจะประกาศเรื่องข้อตกลงแห่งศตวรรษ (Deal of the Century) แก้ปัญหาความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ หลังการเลือกตั้งอิสราเอลเดือนเมษายน แต่ปาเลสไตน์บอกปัดล่วงหน้าเพราะสหรัฐลำเอียงเข้าข้างอิสราเอล.- สำนักข่าวไทย