บราซิล 30 ส.ค.-นางดิลมา รูสเซฟ ประธานาธิบดีหญิงบราซิลที่ถูกสั่งพักงาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่ง โทษฐานตกแต่งบัญชีตัวเลขสถานะการเงินการคลังของประเทศให้ดูดีเกินจริง กำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย ขณะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนในวุฒิสภาเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่สภาจะลงมติโหวตในวันพรุ่งนี้ ว่าจะถอดถอนนางออกจากตำแหน่งอย่างถาวรหรือไม่
นางรูสเซฟ กล่าวย้ำหลายครั้งหลายหนว่าเธอตกเป็นเหยื่อของการทำรัฐประหาร จากฝีมือของกลุ่มคนที่เธอชนะเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีก่อน การไต่สวนนางรูสเซฟ กินเวลายาวนานก่อนวุฒิสมาชิกจะพิจารณา ว่าจะลงมติให้เธอกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเหมือนเดิม หรือขับเธอออกจากตำแหน่งนางรูสเซฟ ให้การต่อสภาว่าตั้งแต่วันที่เธอเข้ารับตำแหน่ง ก็มีความพยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพรัฐบาลของเธอมาโดยตลอด โดยเธอ ถูกกล่าวหาว่าเคลื่อนย้ายเงินกองทุนงบประมาณ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายของบราซิล แถมยังปกปิดตัวเลขการขาดดุลย์งบประมาณจำนวนมหาศาลด้วย
โดยศัตรูทางการเมืองของเธอกล่าวหาว่า นางรูสเซฟได้นำเงินงบประมาณไปใช้จ่ายในโครงการช่วยเหลือทางสังคม เพื่อให้ได้ใจชาวบราซิล ซึ่งส่งผลให้เธอชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 เมื่อ 2 ปีก่อน นางรูสเซฟให้การด้วยว่า ตลอดเวลาที่บริหารประเทศเธอเป็นศัตรูของกลุ่มทหาร ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจเก่าและว่าเธอพยายามต่อสู้ เพื่อความเท่าเทียมกันในสังคม แต่ผลที่ได้รับคือกลุ่มคนเหล่านี้พยายามโค่นอำนาจเธอ นางรูสเซฟยังเตือนด้วยว่ารัฐบาลเฉพาะกาล ของประธานาธิบดีมีเชล เตเม จะจำกัดการใช้จ่ายสาธารณะ และดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มคนรวยส่วนน้อยในสังคม ซึ่งจะทำให้บราซิลตกอยู่ในภาวะเสี่ยงมาก สำหรับมติที่จะถอดถอนนางรูสเซฟได้อย่างถาวร
วุฒิสมาชิกต้องใช้เสียง 54 เสียง จากที่ประชุมทั้งหมด 81 คน นสพ.โฟลฮา เดอ เซาเปาลู ของบราซิล ใช้วิธีสอบถาม สว.พบว่า 52 คน ประกาศแล้วว่าจะลงมติถอดถอนนางรูสเซฟอย่างแน่นอนเท่ากับว่าตอนนี้ ยังขาดอีกเพียง 2 เสียงเท่านั้น ก็จะถอดถอนเธอ ออกจากตำแหน่งได้ โดยหากนางรูสเซฟ วัย 68 ปี ถูกถอดถอนจริงรักษาการประธานาธิบดีเตเมจะบริหารประเทศต่อ จนกว่าจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งของนางรูสเซฟ ในเดือนธันวาคม ปี 2561 .-สำนักข่าวไทย