สหประชาชาติ 31 ส.ค. – รัสเซียตั้งข้อสงสัยรายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรื่องรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีว่า เนื้อหาไม่ชัดเจนมากพอจะสรุปได้ว่ามีการใช้อาวุธเคมีจริงถึงขั้นที่ต้องออกมาตรการลงโทษตามที่อังกฤษและฝรั่งเศสเรียกร้อง
นายวิตาลี เชอร์กิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เสร็จสิ้นการหารือรายงานดังกล่าวว่า มีคำถามหลายประการที่จะต้องทำให้กระจ่างก่อนจะสามารถยอมรับเนื้อหาทั้งหมดของรายงานได้ เนื่องจากรายงานของคณะสอบสวนภายใต้ชื่อกลไกการสอบสวนร่วม (เจไอเอ็ม) ไม่ได้ระบุชื่อใคร ไม่มีการเจาะจง และไม่มีหลักฐานเรื่องการใช้ก๊าซคลอรีน มีแต่อ้างว่าเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศซีเรียได้ทิ้งอาวุธเคมีลงหมู่บ้าน 2 แห่งในจังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 และ 16 มีนาคม 2558 เป็นอุปกรณ์ที่ปล่อยสารพิษ หนึ่งในนั้นคือก๊าซคลอรีน ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามตามอนุสัญญาอาวุธเคมีที่ซีเรียเป็นภาคีในปี 2556 ตามที่ถูกรัสเซียกดดัน
ด้านนายบาชาร์ จาฟารี เอกอัครราชทูตซีเรียประจำยูเอ็น แย้งว่า รายงานของเจไอเอ็มไม่มีวัตถุพยานสนับสนุนเรื่องการทิ้งระเบิดก๊าซคลอรีนใส่พลเรือน เป็นเพียงการอ้างตามพยานที่กลุ่มก่อการร้ายจัดฉากขึ้น ขณะที่นายฟรองซัวส์ เดอลาตร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำยูเอ็น เรียกร้องให้ยูเอ็นเอสซีออกมาตรการอย่างจริงจังและทันที โดยให้มีบทลงโทษผู้เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย เช่นเดียวกับนายแมทธิว ไรครอฟต์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำยูเอ็น ที่ระบุว่า ยูเอ็นเอสซีจะพิจารณาเรื่องการประกาศใช้มาตรการลงโทษภายใต้กลไกกฎหมายสากล. – สำนักข่าวไทย