พนมเปญ 12 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาเตือนสหภาพยุโรป (อียู) ว่าอย่าแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา เป็นการตอบโต้ครั้งแรกหลังจากอียูเริ่มกระบวนการเพื่อยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าที่ให้แก่กัมพูชา
นายกรัฐมนตรีฮุน เซนโพสต์เฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านคนว่า กัมพูชาไม่สามารถแลกเอกราชและอธิปไตยกับสิ่งอื่นได้ และอยากเป็นมิตรกับประเทศที่อยากเห็นกัมพูชาก้าวหน้าโดยไม่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน แต่ไม่ได้พูดถึงข้อตกลงของอียูแต่อย่างใด
อียูประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะเริ่มกระบวนการสังเกตการณ์อย่างถี่ถ้วนเพื่อตัดสินใจว่าจะระงับสิทธิพิเศษทางภาษีให้แก่กัมพูชาตามข้อตกลง Everything But Arms หรือ อีบีเอ (EBA) หรือไม่ ซึ่งจะกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้าที่จ้างงานคนกว่า 700,000 คน เพราะอียูเป็นตลาดส่งออกใหญ่อันดับหกของกัมพูชา นำเข้าสิ่งทอและรองเท้าจากกัมพูชามูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 125,318 ล้านบาท) อียูเตือนมาหลายครั้งว่าจะพิจารณาเรื่องนี้ หลังจากกัมพูชาจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อนโดยไม่มีฝ่ายค้านหลักเข้าร่วมเพราะถูกศาลฎีกาสั่งยุบพรรคก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี กระบวนการของอียูต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี
นักวิเคราะห์มองว่า ฮุน เซนซึ่งปกครองประเทศมากว่า 34 ปี ต้องการคงสิทธิพิเศษทางการค้าเอาไว้ แต่ก็ไม่อยากถูกมองว่ายอมก้มหัวให้แก่แรงกดดันจากต่างชาติ ด้านสมาคมผู้ผลิตสิ่งทอในกัมพูชาออกแถลงการณ์ว่า ความสามารถในการแข่งขันของภาคสิ่งทอจะตกอยู่ในความเสี่ยง ชื่อเสียงของอุตสาหกรรมนี้จะมัวหมอง และการพัฒนาของกัมพูชาจะหยุดชะงัก เพราะอียูจะเก็บภาษีสิ่งทอและรองเท้าจากกัมพูชาในอัตราร้อยละ 12 และ 17 การยกเลิกอีบีเอจะทำให้กัมพูชาเสียหายถึงปีละ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,936 ล้านบาท) นักลงทุนต่างชาติอาจย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศ และจะทำให้ชาวกัมพูชาตกงาน.-สำนักข่าวไทย