วอชิงตัน 28 ม.ค.- นายฮาวเวิร์ด ชูลต์ซ อดีตประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) สตาร์บัคส์ให้สัมภาษณ์สื่อว่า จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2563 ในฐานะผู้สมัครอิสระ
นายชูลต์ซ วัย 65 ปี ให้สัมภาษณ์รายการซิกตีมินิทส์ (60 Minutes) ของซีบีเอสนิวส์เมื่อค่ำวานนี้ว่า กำลังคิดอย่างจริงจังเรื่องลงสมัครประธานาธิบดี และจะลงในฐานะผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดสองพรรค แม้เคยเรียกตัวเองว่าเป็นชาวเดโมแครตตลอดชีพ เพราะตอนนี้ทุกคนอยู่ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด ไม่ใช่แค่โดนัลด์ ทรัมป์ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นประธานาธิบดี แต่ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตยังไม่ยอมทำในสิ่งที่ควรทำเพื่อประชาชนชาวอเมริกัน มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้นทางการเมืองรายวัน เขาโทษทั้งสองพรรคว่าทำให้ประเทศแบกรับหนี้สินถึง 21.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 678 ล้านล้านบาท) เป็นตัวอย่างของการไม่รับผิดชอบหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
ต่อข้อถามที่ว่าการลงสมัครของเขาจะทำให้ฝ่ายค้านเสียงแตก ส่งผลให้ทรัมป์ได้อยู่ต่ออีกสมัยหรือไม่นั้น อดีตซีอีโอสตาร์บัคส์บอกว่า อยากให้ชาวอเมริกันและประเทศอเมริกาเป็นผู้ชนะ นายชูลต์ซเติบโตในครอบครัวชนชั้นทำงานในนครนิวยอร์ก สร้างเนื้อสร้างตัวเมื่อย้ายไปรัฐวอชิงตันในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 และสร้างร้านกาแฟสตาร์บัคส์ให้กลายเป็นอาณาจักรกาแฟระดับโลก
ด้านนายฮูลีอาน กาสโตร อดีตรัฐมนตรีสมัยบารัค โอบามาที่ประกาศเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า หากนายชูลต์ซลงสมัครจะทำให้ทรัมป์มีโอกาสได้รับเลือกตั้งอีกสมัย ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศแน่ ๆ เอเอฟพีระบุว่า ผู้สมัครพรรคที่สามหรืออิสระมักดึงคะแนนเสียงของผู้สมัครพรรคใหญ่ เช่น ปี 2535 นายรอสส์ เพอโรต์ มหาเศรษฐีสายอนุรักษ์นิยมแย่งคะแนนของประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช พรรครีพับลิกันจนพ่ายให้แก่นายบิล คลินตันจากพรรคเดโมแครต หรือปี 2543 นายราล์ฟ เนเดอร์ นักปกป้องผู้บริโภคแย่งคะแนนของรองประธานาธิบดีอัล กอร์ของพรรคเดโมแครตในขณะนั้น ทำให้จอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้ลูกได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี.- สำนักข่าวไทย