ฮาราเร 19 ม.ค.- ซิมบับเว ประเทศทางใต้ของทวีปแอฟริกาบล็อกเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์และวอทส์แอป ระหว่างการกวาดล้างผู้ประท้วงต่อต้านการขึ้นราคาน้ำมันที่ดำเนินมาตั้งแต่วันจันทร์
พันธมิตรสิทธิมนุษยชนซิมบับเวอ้างว่า กองกำลังความมั่นคงสังหารผู้ประท้วงแล้ว 12 คน ทุบตีและทรมานอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง นักเคลื่อนไหวคนสำคัญคนหนึ่งที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ชักชวนประชาชนประท้วงในบ้าน ถูกทางการซิมบับเวตั้งข้อหาโค่นล้มรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสบดี มีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี
รัฐบาลโทษฝ่ายค้านและกลุ่มสิทธิว่า ยุยงให้เกิดการประท้วง เป็นเหตุให้ตำรวจจลาจลปะทะกับผู้ประท้วงที่วางเพลิงและปิดถนนในกรุงฮาราเรและเมืองบูลาวาโย เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ นอกจากนี้ยังมีการปล้นชิงข้าวของ ร้านค้าและโรงเรียนหลายแห่งต้องปิด ทหารออกดูแลความเรียบร้อยตามสถานีบริการน้ำมันที่คนนำรถไปเข้าคิวยาวเหยียดรอเติมน้ำมัน
ประธานาธิบดีเอ็มเมอร์ซอน นังกา-กวาชี้แจงว่า จำเป็นต้องขึ้นราคาน้ำมันเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนเพราะมีการใช้มากขึ้นและมีการลอบค้าผิดกฎหมายอย่างแพร่หลาย แต่การขึ้นราคาเบนซินจากลิตรละ 1.24 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 39.39 บาท) เป็น 3.31 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 105.15 บาท) และดีเซลจากลิตรละ 1.36 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43.19 บาท) เป็น 3.11 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 98.77 บาท) ทำให้ราคาน้ำมันในซิมบับเวขณะนี้แพงที่สุดในโลก ประชาชนไม่สามารถจ่ายค่ารถโดยสารไปทำงาน พวกเขารู้สึกว่าประธานาธิบดีไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่อัตราเงินเฟ้อสูงและค่าจ้างคงที่ได้ตามที่หาเสียงเลือกตั้งปีก่อน.-สำนักข่าวไทย